YLG ลุ้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายปีนี้ หนุนปีหน้านิวไฮแตะ 2,100 ดอลลาร์

YLG ลุ้นเฟดขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายปีนี้ หนุนปีหน้านิวไฮแตะ 2,100 ดอลลาร์

YLG เผยราคาทองคำในประเทศทรงตัวแดนบวก หลังบาทอ่อนระยะสั้น เหตุรัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นท่องเที่ยว แนะจับตาผลประชุมเฟด 19 – 20 ก.ย.66 นี้ มีผลต่อราคาทองระยะยาว หากเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้เป็นครั้งสุดท้าย ลุ้นไตรมาส 1 ปีหน้า ทำนิวไฮ กรอบ 2,075 – 2,100 ดอลลาร์

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด  (YLG)  กล่าวว่า ราคาทองคำในประเทศที่เคลื่อนไหวในทิศทางบวกในช่วงนี้เป็นผลมาจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า อย่างไรก็ตามมองว่าการอ่อนค่าของเงินบาทน่าจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ เนื่องจากนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวของรัฐบาล เช่น การเปิดฟรีวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวจีน จะเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นความต้องการเงินบาทได้  

อย่างไรก็ดีการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทมีผลแต่กับราคาทองคำในประเทศเท่านั้น  ส่วนราคาทองคำในตลาดโลกในระยะสั้นอาจต้องจับตาเพิ่มเติมในประเด็นการส่งสัญญาณยกเลิกนโยบายดอกเบี้ยติดลบของธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ส่งผลให้เยนผันผวนเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ  อย่างไรก็ตามในประเด็นหลัก 

ราคาทองคำต่างประเทศจะเคลื่อนไหวในทิศทางใดต้องจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นวันที่ 19 - 20 ก.ย.66 นี้ ซึ่งตลาดคาดหวังให้ Fed ขึ้นดอกเบี้ยอีกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปรับตัวลดลงในประมาณเดือนมีนาคม 2566 หากเป็นไปตามที่คาดก็จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ในกรอบ 2,075 - 2,100 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ซึ่งก็จะเป็นการทำจุดสูงสุดรอบใหม่

สำหรับแนวโน้มในระยะยาวนั้น มองว่าราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าในอีก 3 - 4 ปีประเทศไทยจะมีการบริโภคทองคำเฉลี่ย 100 ตันต่อปี ซึ่งใกล้ระดับที่เคยสูงสุดที่ 153.8 ตันต่อปีในปี 2556 จากปัจจุบันประเทศไทยมีการบริโภคทองคำโดยเฉลี่ย 63 ตันต่อปี ซึ่งสูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย เป็นรองแค่ จีน และอินเดีย และเป็นอันดับ 7 ของโลก

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์