MALEE เผย Q1/67 รายได้ 2.1 พันล้าน ช่องทางขายเมืองนอกโตแรง 63% หนุนกำไรบวก 261%

MALEE เผย Q1/67 รายได้ 2.1 พันล้าน ช่องทางขายเมืองนอกโตแรง 63% หนุนกำไรบวก 261%

บมจ. มาลีกรุ๊ป (MALEE) เผย Q1/67 มีรายได้ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% สาเหตุหลักมาจากช่องทางการขายต่างประเทศขยายตัวแรง กำไรสุทธิ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 261% ระบุคุมค่าใช้จ่ายดีพ้นภาระปรับโครงสร้าง แถมมีบริษัทย่อยที่เวียดนามยังพลิกกำไรต่อเนื่อง

บริษัท มาลีกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MALEE แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขาย รวม 2,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% YoY สาเหตุหลักมาจากช่องทางการขายต่างประเทศปรับเพิ่มขึ้น 63% YoY

ทั้งนี้ มีการเติบโตของธุรกิจ Brand ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมเพิ่มขึ้น 8% มาจากการเน้นการเติบโตของสินค้าภายใต้แบรนด์ Malee ที่เป็นหน่วยประเภทสินค้าที่เป็นจุดสนใจ (Focus SKU)

ตลอดจนการปรับกลยุทธ์ทางการขายและการตลาดที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง และมีการเติบโตของธุรกิจรับจ้างผลิต เพิ่มขึ้น 19% โดยมีคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ที่เริ่มผลิตให้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2566 จากลูกค้าใหม่ในประเทศและลูกค้าเดิมในต่างประเทศ

ทั้งนี้ไตรมาส 1/2567 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่เท่ากับ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 261% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อนที่ 34 ล้านบาท เป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและความมีประสิทธิภาพในการควบคุมต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นนอกจากนี้ มีรายการที่มีนัยสำคัญที่ทำให้ไตรมาสนี้บริษัทมีผลกำไรสุทธิเติบโตแบบก้าวกระโดดคือ

1. บริษัทย่อยที่ประเทศเวียดนามได้มีผลประกอบการพลิกจากขาดทุนเป็นกำไรต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่สอง อันเนื่องจากการเติบโตของธุรกิจรับจ้างผลิต จากลูกค้าเดิมที่มีคำสั่งซื้อขนาดใหญ่ที่เริ่มผลิตให้ตั้งแต่ไตรมาส 3/2566
2. ในไตรมาส 1/2567 นี้มีค่าใช้จ่ายลดลงจากไตรมาส 1/2566 คือ ค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างบริษัทที่รวมกลุ่ม ABICO เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Malee

สำหรับปี 2567 บริษัทฯ ยังคงมุ่งหน้าสร้างผลกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเร่งการเติบโตของยอดขายสินค้าภายใต้แบรนด์ Malee & Chokchai Farm ให้มากขึ้นเมื่อเทียบกับการเติบโตของยอดขายสินค้ารับจ้างผลิต โดยบริษัทมิได้จำกัดการเติบโตของยอดขายธุรกิจรับจ้างผลิตเพื่อพยายามลดต้นทุนการผลิตและการบริหารจากการใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น