'เคทีซี'ชี้ครึ่งปีหลังยอดรูดบัตรพุ่ง รับการกระตุ้นใช้จ่าย -ท่องเที่ยว

'เคทีซี'ชี้ครึ่งปีหลังยอดรูดบัตรพุ่ง รับการกระตุ้นใช้จ่าย -ท่องเที่ยว

“เคทีซี” ชี้ยอดใช้จ่ายบัตรฯ ครึ่งปีหลังโตเด่น เหตุมาตรการรัฐกระตุ้นใช้จ่าย -ไฮซีซันท่องเที่ยว มั่นใจทั้งปี66ยอดใช้จ่ายบัตรสูงกว่าเป้าหมายที่โต10% หรือ 2.5 แสนล้าน

นางสาวประณยา นิถานานนท์ ผู้บริหารสูงสุดสายงานการตลาดบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตของเคทีซี ครึ่งปีหลัง 2566 คาดว่ายังเติบโตดีต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นเทศกาลของการท่องเที่ยว และการมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐออกมาหนุนการจับจ่ายใช้สอยปลายปี 

ทั้งนี้ทำให้หมวดการจับจ่ายใช้สอยเติบโตดีต่อเนื่อง ได้แก่ ท่องเที่ยว อาหาร สุขภาพและความงาม ประกัน ซึ่งเคทีซีเตรียมแคมเปญบัตรเครดิตพร้อมสนับสนุนการจับจ่ายใช้ช่วงปลายปีด้วย จึงมั่นใจว่า ยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตของเคทีซีปีนี้ จะเติบโตสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 10% คิดเป็นมูลค่า 250,000 ล้านบาท จากครึ่งแรกปี2566เติบโต 16.3%

โดย เคทีซีเตรียมออกบัตรเครดิตใหม่ “บัตรเครดิตเคทีซี ดิจิทัล” ( KTC Digital Credit Card ) เป็นบัตรเครดิตอัจฉริยะที่ปลอดภัยที่สุดครั้งแรกในไทย ไร้กังวลจากการขโมยข้อมูลด้วยบัตรพลาสติกไร้หมายเลขบนบัตร (Numberless Card) จะเปิดบัตรอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งตั้งเป้าหมาย 50,000 ใบ มีมูลค่ายอดใช้จ่ายบัตรราว 600 ล้านบาท ดังนั้นทำให้ยอดออกบัตรเครดิตใหม่ปีนี้ตามเป้าหมายที่ 180,000 ใบ และจะใช้บัตรเครดิตใหม่นี้ขยายฐานลูกค้าบัตรเครดิตใหม่ในปีหน้าด้วย

นางสาวประณยา กล่าวว่า บริษัทยังควบคุมคุณภาพหนี้ ระมัดระวังการอนุมัติบัตรเครดิต จากช่วงที่เหลือปีนี้ยังมีความเสี่ยงเรื่องหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ปัจจุบันมียอดอนุมัติบัตรใหม่เฉลี่ยที่38-39% และยังรักษาระดับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL) ปีนี้ ไว้ไม่ให้เกิน 2% จากปัจจุบัน NPL อยู่ที่ 1.2% ถือว่า อยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่ระดับกว่า 2%

ส่วนมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของ ธปท. อาจจะกระทบ เคทีซีในบางเรื่องนั้น นางสาวประณยา กล่าวว่า ปัจจุบันมาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของ ธปท. ขณะนี้อยู่ระหว่างรับฟังความคิดเห็นอยู่ ในประเด็นที่จะใช้เป็นเรื่องแรกในต้นปี2567 คือการปล่อยกู้อย่างรับผิดชอบนั้น ทาง เคทีซี ยังต้องติตตาม และ รอรายละเอียดที่ชัดเจนจากทางธปท.ก่อน ซึ่งบริษัทพร้อมให้ความร่วมมือ และคาดว่าจะกระทบธุรกิจบัตรเครดิตไม่มาก