ศุลกากรจับชายชาวเปรูลักลอบนำเข้าโคคาอีนกว่า 2 กิโลกรัม มูลค่า 6.8 ล้านบาท

ศุลกากรจับชายชาวเปรูลักลอบนำเข้าโคคาอีนกว่า 2 กิโลกรัม มูลค่า 6.8 ล้านบาท

ศุลกากรจับกุมชายชาวเปรู ลักลอบนำโคคาอีนเข้าประเทศ โดยซุกซ่อนภายในร่างกาย น้ำหนัก 2,280 กรัม มูลค่าประมาณ 6.8 ล้านบาท ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ

นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2566 กองสืบสวนและปราบปราม และสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นำโดย นายถวัลย์ รอดจิตต์ ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม และนางสาวนิตยา เที่ยงตรงภิญโญ ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้ให้เจ้าหน้าที่กรมศุลกากรในสังกัดฯ ร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF (AIRPORT INTERDICTION TASK FORCE)

ประกอบด้วย กรมศุลกากร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) และศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้ร่วมกันตรวจสอบผู้โดยสารที่มีความเสี่ยงในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นผู้โดยสารของสายการบินแอร์ฟรานซ์ เดินทางมาจากกรุงลิมา สาธารณรัฐเปรู และเปลี่ยนเครื่องที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ

พบผู้โดยสารที่เป็นชายชาวเปรู มีความน่าสงสัยจึงขอตรวจค้นโดยการสแกนกระเป๋าและสแกนร่างกาย  ซึ่งภายในสัมภาระเดินทางไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ แต่ภายในร่างกายพบความผิดปกติที่คาดว่าจะเป็นยาเสพติด จึงขอให้ผู้โดยสารเข้ากระบวนการตรวจสอบตามขั้นตอน ผลจากการตรวจสอบ พบยาเสพติดให้โทษประเภท 2 โคคาอีน ลักษณะเป็นของเหลวใสบรรจุห่อหุ้มด้วยถุงยางอนามัย 4 ชั้น น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 2,280 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในร่างกาย มูลค่าประมาณ 6,840,000 บาท

การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และมาตรา 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ทั้งนี้ กรมศุลกากรจะดำเนินการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป 

ทั้งนี้ นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร ให้ความสำคัญในภารกิจปกป้องสังคม ให้ปราศจากการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมายและยาเสพติด จึงให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกรมศุลกากร เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษในการป้องกัน สกัดกั้นยาเสพติดให้โทษ  และบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง