FETCO ชี้ 'เลือกตั้ง'ดันเชื่อมั่นพุ่ง 15% หวังรัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ

FETCO ชี้ 'เลือกตั้ง'ดันเชื่อมั่นพุ่ง 15%  หวังรัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ

"เฟทโก้“ เผย ความเชื่อมั่นนักลงทุนเพิ่มขึ้น 15.1% หวัง”เลือกตั้ง -ฟันด์โฟลว์ไหลเข้า"หนุน "กอบศักดิ์" ชี้ หากรัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ ดันดัชนี มองปีนี้เป็นจังหวะลงทุนหุ้นที่ดี เหตุ มักจะต่ำสุดก่อนเศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุด ด้านตลท. คาดทิศทางเม็ดเงินลงทุนต่างชาติยังผันผวน

สภาธุรกิจตลาดทุนไทย(เฟทโก้)เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 110.09  เพิ่มขึ้น 15.1% จากเดือนก่อนหน้า โดยยังอยู่ในเกณฑ์ “ทรงตัว” ซึ่ง นักลงทุนมองว่าการเลือกตั้งในประเทศจะเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด รองลงมา คือความคาดหวังต่อการไหลเข้าของเงินทุน และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว

สำหรับปัจจัยที่ฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด ได้แก่ แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) รองลงมาคือสถานการณ์การเมืองในประเทศในช่วงเลือกตั้ง และสถานการณ์เงินเฟ้อ

ตลท.

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า  หากหลังลือกตั้งแล้วได้รัฐบาลมั่นคงมีเสถียรภาพ และมีนโยบายชัดเจน จะเป็นจุดที่ตอบโจทย์ตลาดทุนไทยตอบรับเชิงบวก แต่หากเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย หลากหลายพรรคร่วม  ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ ตลาดจะเกิดความผันผวนจากความกังวลใจของนักลงทุน  

“มองว่ารัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ หรือมีเสถียรภาพไม่มาก จะสร้างความกังวลใจต่อตลาดทุนอย่างมาก จึงต้องติดตามดูหลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จว่าจะเป็นอย่างไร”

    

 สำหรับสิ่งที่ตลาดทุนไทย อยากเห็นจากรัฐบาลใหม่ คือ การมีมาตรการระยะยาวสร้างอนาคตประเทศไทยและสร้างรายได้ ให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตที่ดีขึ้นจากเดิม เช่น ผลักดันอุตสาหกรรม 4.0 และอุตสาหกรรมเดิม อย่างรถยนต์ อาหาร ต้องอิเล็กทรอนิกส์ ท่องเที่ยว การแพทย์ ต้องปรับเปลี่ยนไปสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ และควรจะดำเนินการโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างต่อเนื่อง

รวมถึงโครงการลดอุปสรรคเชิงกฎหมาย ซึ่งไม่ต้องใช้เงินแต่ใช้ความตั้งใจ ช่วยปลดล็อก สร้างขีดคความสามารถ ในการแข่งขันดีขึ้น

รวมถึงอยากเห็นมาตรการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาด้วย ช่วยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางหลากหลายอุตสาหกรรมให้ได้ และยังเป็นโนยบายช่วยให้ตลาดทุนไทยเติบโต ทำให้เกิดธุรกิจใหม่ และสตาร์ตอัปเข้ามาไอพีโอเพิ่มขึ้น

นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ทางเฟทโก้ จะรวบรวมมาตรการส่งเสริมตลาดทุนไทย มาตรการเหมาะสมกับประชาชน นักลงทุน และใช้ตลาดทุนไทยเป็นเครื่องมือสร้างฐานภาษีใหม่ๆให้กับรัฐได้ตรงไหนบ้าง เป็นสิ่งที่เราคงจะหารือรัฐบาลใหม่ต่อไป

       ส่วนความคืบหน้าการฟื้นกองทุนรวมระยะยาว (LTF) นั้นปัจจุบันตลาดทุนอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะมีนโยบายอย่างไรที่เหมาะสมเพื่อนำไปหารือกับรัฐบาลใหม่ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้น และมีแรงจูงใจให้คนออมให้มากขึ้น เพราะตลอด 4 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่ากองทุนรวมเพื่อส่งเสริมการออมระยะยาว (SSF) ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้   

       นอกจากนี้ ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นในสหรัฐ สะท้อนความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยปลายปีนี้ จะทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐผันผวนไประยะเวลาหนึ่ง และปัญหาเพดานหนี้สหรัฐเป็นเรื่อง เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก สุดท้ายจบลงด้วยการตกลงกันได้  ดังนั้นครั้งนี้เราเชื่อว่าตกลงกันได้

และในปีนี้เรายังมองเป็นโอกาสการลงทุนที่ดี สำหรับสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้น เพราะหุ้นมักจะต่ำสุดก่อนเศรษฐกิจผ่านจุดต่ำสุดเสมอ

     นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทางด้านแนวโน้มตลาดหุ้นไทยหลังเลือกตั้ง14พ.ค.นี้หากดูสถิติย้อนหลัง20-30ปีที่ผ่านมาเซ็นทริเม้นต์ตอบรับเชิงบวกโดยตลาดคาดหวังพรรคที่เข้ามาพัฒนาเศรษฐกิจให้ภาคธุรกิจขยายตัวไปได้ทั่วโลกธุรกิจขยายใหญ่ขึ้นสามารถให้ผลตอบแทนนักลงทุนดีอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแนวโน้มเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศ(ฟันด์โฟลว์) จากนี้ยังมีความไม่แน่นอน เพราะ ปัจจัยต่างประเทศเป็นหลักโดยเฉพาะคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยเฟด แต่เดือนพ.ค.นี้เริ่มมีแรงซื้อหุ้นไทยกลับมาทำให้แรงขายหุ้นไทยลดลง ต้องจับตาทิศทางฟันด์โฟลว์ในเดือนพ.ค.นี้จะเป็นจุดเปลี่ยนได้หรือไม่ หลังจากปัญหาแบงก์รันในสหรัฐตลาดรับข่าวแล้ว เพราะเป็นปัญหาเรื่องเฉพาะตัวและไม่ลาม