โบรกหั่นกำไรอสังหาฯร่วงแรง ซัพพลายล้น–ยอดปฏิเสธสินเชื่อพุ่ง

ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังเผชิญแรงกดดัน หนักจากซัพพลายที่ล้นตลาดและการเข้มงวดปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้กำไรรวมปี 2568 หดตัวแรงกว่าที่คาดไว้
KEY
POINTS
- โบรกเกอร์ปรับลดคาดการณ์กำไรกลุ่มอสังหาฯ ปี 2568 ลงอย่างหนัก เนื่องจากปัญหาซัพพลายล้นตลาดและอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่พุ่งสูงขึ้น
- บล. กสิกรไทยคาดว่ากำไรรวมของกลุ่มอสังหาฯ ในปี 2568 จะหดตัวแรงถึง 23% จากแรงกดดันของอุปทานส่วนเกินและเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
- การฟื้นตัวของตลาดคาดว่าจะล่าช้าออกไปอย่างน้อยถึงกลางปี 2569 เนื่องจากกำลังซื้อยังอ่อนแอและการแข่งขันด้านราคายังคงรุนแรง
ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังเผชิญแรงกดดัน หนักจากซัพพลายที่ล้นตลาดและการเข้มงวดปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน ส่งผลให้กำไรรวมปี 2568 หดตัวแรงกว่าที่คาดไว้
โบรกเกอร์ต่างปรับลดประมาณการกำไรติดลบมากขึ้น ท่ามกลางฟื้นตัวยังเปราะบางและเลื่อนออกไปถึงกลางปี 2569 สะท้อนการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงและกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ แม้บางบริษัทใหญ่เริ่มปรับตัวได้และมีโอกาสกลับมาเติบโตในครึ่งหลังปีหน้า
นายสรพงษ์ จักรธีรังกูร ผู้อำนวยการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์(บล.) กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ภาพรวมยังไม่ดีนัก มีสาเหตุเนื่องจาก 2 ปัจจัยหลักคือ 1.ซัพพายที่ยังมีอยู่ในตลาดจำนวนมาก แม้ผู้ประกอบการมีการปรับลดมูลค่าเปิดตัวลงมามากแล้วก็ตาม และ 2. สถาบันการเงินยังเข้มงวดปบ่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เห็นจากอัตราการปฏิเสธสินเชื่อที่สูง ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว
ปัจจุบันปรับลดประมาณการกำไรรวมของกลุ่มอสังหาฯ ในปี 2568 หดตัว 23% หรืออยู่ที่ 21,470 ล้านบาท จากปี2567 อยู่ที่ 27,853 ล้านบาท โดยปัจจุบันถือเป็นระดับเหมาะสมแล้ว หลังผู้ประกอบการปรับลดแผนเปิดตัวโครงการใหม่ปีนี้ และยอดขาย 9 เดือนแรกปีนี้ ออกมาต่ำคาด
“เดิมมองกำไรรวมกลุ่มอสังหาฯ ยังทรงตัวจากปีก่อนหน้า แต่ในช่วงกลางปีนี้หลังแผ่นดินไหวได้ปรับลดลง เป็นติดลบ 15% และปัจจุบันปรับลงมาอีก ติดลบ23% คงไม่มีการปรับประมาณการกำไรแล้ว เพราะเห็นว่าประมาณการปัจจุบันเหมาะสมแล้ว"
สำหรับแนวโน้มกลุ่มหุ้นอสังหาฯ ปี2569 มองว่า โมเมนตัมช่วงครึ่งปีแรก การแข่งขันจะยังอยู่ระดับสูง แม้จะลดลงจากปี 2568 เนื่องจากระดับอุปทานยังสูง แต่จะค่อยๆดีขึ้นในครึ่งหลังของปี จากผู้ประกอบการเริ่มตั้งหลักได้ ปรับสินค้าให้ตรงกับอุปสงค์ได้ดีขึ้น รวมทั้งการแข่งขันด้านการลดราคาจะลดลง
โดยบล.กสิกรไทย คาดการณ์กำไร 10 บริษัทอสังหาฯขนาดใหญ่ ในปี 2569 ที่25,225 ล้านบาท เติบโต 17% จากปีก่อน สำหรับ กลยุทธ์ลงทุนหุ้นอสังหาฯ ให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่ม“เท่ากับตลาด” โดยการซื้อเป็น ”selective buy“ เฉพาะบริษัทที่มีการปรับตัวต่อเนื่องซึ่งช่วยให้สามารถเพิ่มสัดส่วนการตลาดได้ รวมถึงเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความได้เปรียบเชิงต้นทุน และมีแบรนด์ที่แข็งแกร่ง แนะนำ AP SIRI SPALI ที่ราคาเป้าหมาย 9 บาท 1.67 บาท และ 16.3 บาท ตามลำดับ
นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐาน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์(บล.) บัวหลวง เปิดเผยว่า ได้ปรับคาดการณ์กำไรกลุ่มอสังหาฯ ในปีนี้เป็นหดตัว 12% จากต้นปีนี้คาดเติบโต 1% จากปีก่อนหน้า โดยปรับลดลงมากหดตัว15% จากผลกระทบแผ่นดินไหว และแรงกดดันช่วงไตรมาส 4 นี้ จากโครงการพร้อมขายยังมีอยู่มาก สต๊อกล้นตลาด ,การแข่งขันด้านราคาที่ยังรุนแรง และข้อจำกัดด้านหนี้ครัวเรือน
ซึ่งส่งผลให้การฟื้นตัวกำไรกลุ่มอสังหาฯ ใน ไตรมาส 4/2568 เพียงเล็กน้อยเท่านั้นหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จากการรับรู้ยอดขายbacklog และแคมเปญช่วงปลายปีเท่านั้น
แต่หากมองไปข้างหน้า แนวโน้มพื้นฐานยังคง “เปราะบาง” กำไรของกลุ่มอสังหาฯ ยังฟื้นตัวช้า โดยคาดจะเริ่มเห็นกำไรกลับมาฟื้นตัวได้เร็วที่สุดคือช่วงกลางปี 2569
ทั้งนี้ประมาณกำไรกลุ่มนี้ ในปี 2569 เติบโตแค่ 2% ยังมีปัจจัยกดดัน ทั้งจากยอดเปิดตัวโครงการใหม่ชะลอในบางเซ็กเตอร์ ผู้ประกอบการยังระมัดระวัง แม้ยอดจองซื้อทรงตัวหรือดีขึ้นเล็กน้อย สะท้อนกำลังซื้อยังอ่อนแอ แม้ผ่านจุดต่ำสุดตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้ไปแล้ว
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุน ยังคงมีมุมมองระมัดระวังในการลงทุน และให้น้ำหนักการลงทุนกลุ่มอสังหาฯ เพื่ออยู่อาศัย (ResProp) น้อยกว่าตลาด เพราะว่ามี แรงกดดันต่อกำไรที่ยืดเยื้อในหุ้นภายใต้การวิเคราะห์ , การแข่งขันด้านราคาที่ทวีความรุนแรงและจะกดดันมาร์จินต่อเนื่อง, และอุปสงค์ที่ฟื้นตัวแบบช้า ๆ
“ หุ้นกลุ่มนี้ยังมองว่า อ่อนแอ ฟื้นช้า แนะยังหลีกเลี่ยง แต่ถือ ได้ SC และ SIRI ที่ราคาเป้าหมาย 1.61 และ 1.33 บาท ตามลำดับ จากดีมานด์ระดับบนยังดีกว่าระดับล่าง“







