ธปท. จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยงกดดัน ศก.ไทย แม้มองบวกเดือนมี.ค.ยังฟื้นต่อเนื่อง

ธปท. จับตา 3 ปัจจัยเสี่ยงกดดัน ศก.ไทย แม้มองบวกเดือนมี.ค.ยังฟื้นต่อเนื่อง

ธปท. มอง 3 ปัจจัยเสี่ยงกดดันเศรษฐกิจไทย "แนวโน้มเศรษฐกิจโลก ปัญหาแบงก์สหรัฐและยุโรป - การกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน - การส่งผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการ ฉุดการบริโภค" แต่คาดเดือน มี.ค.ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากเดือนก.พ. ขยายตัวดีทุกด้าน เงินบาทอ่อนค่า

นายสักกะภพ  พันธ์ยานุกูล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า  ในเดือนมี.ค. คาดว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือนก.พ. แต่ยังมีประเด็นที่ต้องติดตามที่จะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ไม่ว่าจะเป็น 1.แนวโน้มเศรษฐกิจโลก รวมปัญหาสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐและยุโรปจะลุกลามมากน้อยแค่ไหน   2. ผลของการกลับมาเปิดประเทศของจีน ที่ผ่านมาเห็นการกลับมาของนักท่องเที่ยวจีน ถือว่าดีกว่าที่คาด 3.การลงทุนผ่านต้นทุนของผู้ประกอบการที่อาจมีการอั้นในช่วงที่ผ่านมา จะมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคมากน้อยแค่ไหน

" ในเดือนก.พ.จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ อยู่ที่ 2.1 ล้านคน  ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจีน 155,000 คนเพิ่มขึ้น จากเดือนก่อนหน้า 91,000 คน และอินเดียกลับเข้ามามากขึ้น รวมถึงนักท่องเที่ยวสหรัฐ ญีปุ่น เกาหลีใต้ คาดว่าแนวโน้มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติยังเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง จากความสามารถรองรับของเที่ยวบินและการจองโรงแรมที่ปรับตัวดีขึ้น   ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเฉลี่ยต่อวัน 76,000 คน  ปรับตัวดีขึ้นจากในเดือนก.พ.เฉลี่ยต่อวันที่ 73,000 คน  ถือเป็นการกลับมาเร็วกว่าที่คาด มีโอกาสที่นักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้จะเป็นไปเป้าหมาย 28 ล้านคน หรือ มากกว่านี้" 

เศรษฐกิจไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ปรับดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ปรับดีขึ้น

ด้านเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหมวดสินค้าคงทน ส่วนภาคบริการปรับดีขึ้นตามจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ

สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐขยายตัวจากรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางและรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจ

เสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไป ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่  และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน  ลดลงจากเดือนก่อนหน้า จากผลของฐานสูงในปีก่อน ประกอบกับราคาผัก และผลไม้ที่ลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น แ

ด้านตลาดแรงงานโดยรวมทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้าเป็นสำคัญ

รายละเอียดของภาวะเศรษฐกิจไทยมีดังนี้
มูลค่าการส่งออกสินค้าไม่รวมทองคำที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วอยู่ที่ -1.8% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ -3.3%  ในหลายหมวด โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าเกษตรแปรรูป อาทิ น้ำตาลและน้ำมันปาล์มดิบ ตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นมากจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ประกอบกับอุปทานของประเทศผู้ส่งออกหลักลดลง และการส่งออกฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่เพิ่มขึ้นตามรอบการส่งมอบสินค้าของผู้ประกอบการ

อย่างไรก็ตาม การส่งออกบางสินค้าปรับลดลง อาทิ โลหะและเครื่องใช้ไฟฟ้าตามอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าที่ลดลง

การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้ว ที่ -3.9% เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน 4.0% ในหลายหมวด โดยเฉพาะ (1) หมวดเคมีภัณฑ์ตามอุปสงค์จากจีนและในประเทศที่เพิ่มขึ้น (2) หมวดปิโตรเลียมที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามการฟื้นตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ (3) หมวดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ที่เพิ่มขึ้นตามรอบการผลิตและส่งออกสินค้า และ (4) หมวดอาหารและเครื่องดื่มจากการผลิตน้ำตาล ตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้นจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย

อย่างไรก็ตาม การผลิตหมวดยานยนต์ลดลง เนื่องจากมีการเร่งผลิตรถกระบะไปมากในช่วงก่อนหน้าเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วเพิ่มขึ้นจากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ตามการนำเข้าสินค้าทุน ยอดจำหน่ายเครื่องจักรในประเทศ และยอดจดทะเบียนรถยนต์เชิงพาณิชย์ ขณะที่การลงทุนหมวดก่อสร้างทรงตัวจากทั้งยอดจำหน่ายวัสดุก่อสร้างและพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้าง

เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้วที่ 3.9% เพิ่มขึ้น จากเดือนก่อนที่ 4.0% ในเกือบทุกหมวด โดยเฉพาะหมวดสินค้าคงทนตามยอดจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตามคำสั่งซื้อในช่วงก่อนหน้า ขณะที่ยอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ทยอยปรับดีขึ้น โดยเฉพาะความเชื่อมั่นผู้บริโภค อย่างไรก็ตามค่าครองชีพที่อยู่ในระดับสูงยังเป็นปัจจัยกดดันการบริโภคในภาพรวม


จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ขจัดปัจจัยฤดูกาลแล้ว เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่  โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนหลังทางการจีนอนุญาตให้นักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์สามารถเดินทางมาไทยได้ และนักท่องเที่ยวอินเดียหลังทางการยกเลิกมาตรการให้ผู้ที่เดินทางจากไทยต้องตรวจ RT-PCR ก่อนกลับเข้าประเทศ

การใช้จ่ายภาครัฐที่ไม่รวมเงินโอนขยายตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน จากรายจ่ายประจำของรัฐบาลกลางและรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจ โดยรายจ่ายประจำขยายตัวตามการจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานด้านการศึกษาที่เร็วกว่าปกติ และตามการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จ บำนาญ และค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ สำหรับรายจ่ายลงทุนของรัฐวิสาหกิจขยายตัวตามการเบิกจ่ายของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีนเป็นสำคัญ ขณะที่รายจ่ายลงทุนของรัฐบาลกลางหดตัวหลังจากเร่งเบิกจ่ายไปแล้วในเดือนก่อน

ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลง  อัตราเงินเฟ้อทั่วไป 3.79% ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 5.02%  จากผลของฐานสูงในปีก่อน ทั้งในหมวดพลังงานและอาหารสด ส่วนหนึ่งจากผลของฐานสูงในปีก่อน ประกอบกับราคาผัก และผลไม้ที่ลดลงตามผลผลิตที่เพิ่มขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน 1.93% ลดลงจากเดือนก่อนหน้า 3.04% ลดลงจากราคาอาหารสำเร็จรูปที่มีผลของฐานสูงในปีก่อนเป็นสำคัญ

ด้านตลาดแรงงานทรงตัวใกล้เคียงกับเดือนก่อน สะท้อนจากจำนวนผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมที่ทรงตัวอยู่ในระดับใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ COVID-19 สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้าเป็นสำคัญ

ขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอนเกินดุลเล็กน้อย

ด้านอัตราแลกเปลี่ยน เงินบาทเทียบกับดอลลาร์  เฉลี่ยอ่อนค่าหลังตลาดเพิ่มการคาดการณ์ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ เนื่องจากตัวเลขการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังอยู่ในระดับสูง