แบงก์กรุงเทพ-กสิกร ส่องสินเชื่อเอสเอ็มอีโค้งแรกดีมานด์พุ่ง

แบงก์กรุงเทพ-กสิกร ส่องสินเชื่อเอสเอ็มอีโค้งแรกดีมานด์พุ่ง

ธปท.เปิดผลสำรวจแนวโน้มสินเชื่อไตรมาสแรก ปี66 พบดีมานด์สินเชื่อ“เอสเอ็มอี”โค้งแรกทะยาน “ธนาคารกรุงเทพ” ชี้ เอสเอ็มอี แห่ขอกู้เพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียน -ลงทุนเพิ่ม อานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นพยุงหลายอุตสาหกรรมฟื้นตาม ด้านกสิกรไทย คาดไตรมาสแรกสินเชื่อโต4-5%

      ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คาดการณ์เศรษฐกิจในเดือนม.ค. 2566 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้น ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญทำให้เศรษฐกิจไทยปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจกล้าจับจ่ายใช้สอย และลงทุนมากขึ้น 

      สอดคล้องกับผลสำรวจของธปท.เกี่ยวกับภาวะและแนวโน้มสินเชื่อ ที่ได้สำรวจผู้บริหารระดับสูงของสถาบันการเงิน และผู้ให้บริการที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน(นอนแบงก์) 25 แห่ง นอนแบงก์ 24 แห่ง ครอบคลุมสินเชื่อ 98% พบว่าไตรมาสแรก ปี2566 ธุรกิจทุกขนาดและสาขาธุรกิจยังมีแนวโน้มต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

      โดยเฉพาะเอสเอ็มอี ที่ยังต้องการสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน สำหรับดำเนินกิจการและผลิตสินค้าคงคลัง ขณะที่ความต้องการสินเชื่อของธุรกิจขนาดใหญ่ อาจขยายตัวชะลอลงบ้าง เนื่องจากได้เร่งระดมทุนไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า แต่ยังมีความต้องการสินเชื่อเพื่อการควบรวมและซื้อกิจการ (M&A)ต่อเนื่อง  

        ส่วนมาตรการการให้สินเชื่อ คาดสถาบันการเงินยังเข้มงวดต่อเนื่อง โดยเฉพาะเอสเอ็มอีที่สถาบันการเงินมีแนวโน้มระมัดระวังมากขึ้น จากคุณภาพสินเชื่อที่ยังไม่ปรับดีขึ้น รวมถึงมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอน

       อีกทั้งพบว่า สถาบันการเงินบางแห่งเพิ่มความระมัดระวังในการให้สินเชื่อภาคเกษตรมากขึ้น จากการเผชิญภาวะต้นทุนที่สูงต่อเนื่อง ขณะที่บางแห่งพิจารณาปรับเงื่อนไขสินเชื่อให้เข้มงวดขึ้น เช่น ปรับเพิ่ม margin สำหรับลูกค้ากลุ่มเสี่ยง อย่างไรก็ดี สถาบันการเงิน ยังมีความต้องการปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกขนาดและทุกสาขาธุรกิจ

      นายศิริเดช เอื้องอุดมสิน รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) กล่าวว่า แนวโน้มความต้องการสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารปรับตัวดีขึ้น  เพราะต้องการสินเชื่อเพื่อนำไปขยายธุรกิจ และใช้เป็นทุนหมุนเวียนเพิ่มขึ้น

       หลักๆมาจากท่องเที่ยวฟื้นตัว ที่เป็นตัวหนุน ให้อุตสาหกรรมต่างๆฟื้นตัวตามด้วย ดังนั้นเชื่อว่า สินเชื่อเอสเอ็มอีในไตรมาสแรก น่าจะเติบโตดีขึ้นหากเทียบกับไตรมาส 4 และไตรมาสแรก ปีก่อน

      ทั้งนี้ ลูกหนี้เอสเอ็มอีที่อยู่ภายใต้มาตรการช่วยเหลือของธปท. ฟื้นตัว และออกจากมาตรการได้มากขึ้น แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังต้องประคองและช่วยเหลือต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจกลับมาอย่างยั่งยืน

       นายชัยยศ ตันพิสุทธิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK)กล่าวว่า แม้แนวโน้มความต้องการสินเชื่อเอสเอ็มอี ของธนาคารกสิกรไทยจะปรับตัวดีขึ้น

       แต่หลักๆมาจากความต้องการสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินหมุนเวียน เพื่อใช้ในการซื้อสินค้า และเป็นสภาพคล่อง  เพราะต้นทุนราคาสินค้า ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น มีผลทำให้ภาระเอสเอ็มอีต่างๆปรับตัวเพิ่มขึ้น

        ต่างกับการขอสินเชื่อเพื่อการลงทุน และใช้สำหรับการขยายธุรกิจ ยังมีไม่มากนัก ซึ่งต้องดูความชัดเจนอีกสักระยะ

       ดังนั้นคาดว่า จากดีมานด์สินเชื่อที่ดีขึ้นต่อเนื่อง  จะหนุนให้สินเชื่อเอสเอ็มอีไตรมาสแรก เติบโตได้ดีระดับ 4-5% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนได้ และเติบโตต่อเนื่อง หากเทียบกับไตรมาส 4 ที่ผ่านมา

      ส่วนการอนุมัติสินเชื่อ ธนาคารยอมรับว่ายังเข้มในการปล่อยสินเชื่อ ภายใต้ความเปราะบางที่ยังคงมีอยู่ และเน้นดูคุณภาพลูกค้าเป็นหลัก