‘บิทาซซ่า’เปิดเกมรุกเสริมแกร่ง ตลาดสถาบัน-กลุ่มนักท่องเที่ยว 

‘บิทาซซ่า’เปิดเกมรุกเสริมแกร่ง  ตลาดสถาบัน-กลุ่มนักท่องเที่ยว 

“บิทาซซ่า” จับมือ “บีทูซีทู” เสริมแกร่งสภาพคล่อง เดินหน้าโต เร่งเครื่องเปิดตัว DigiPay แอปชำระคริปโทฯ กลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติ คาดเข้า Sandbox ก.ล.ต. ในปีนี้ 

KEY

POINTS

  • บิทาซซ่าประกาศความร่วมมือกับ B2C2 ผู้ให้บริการสภาพคล่องระดับโลก เพื่อยกระดับบริการและขยายตลาดสู่กลุ่มลูกค้าสถาบัน
  • เตรียมเข้าร่วมโครงการ Tourist DigiPay Sandbox ของ ก.ล.ต. เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถใช้สินทรัพย์ดิจิทัลชำระค่าสินค้าและบริการเป็นเงินบาทได้
  • ตั้งเป้าสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในระยะ 2 ปีข้างหน้า ผ่านการเสริมศักยภาพด้านสภาพคล่องและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

บริษัท บิทาซซ่า (ประเทศไทย) จำกัด หรือ Bittazza ผู้ให้บริการนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)

พร้อมประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ บีทูซีทู ( B2C2) ผู้นำระดับโลกด้านการให้บริการสภาพคล่องสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียน พร้อมขยายบริการสู่ตลาดสถาบันภายใต้กรอบกำกับดูแลมั่นคง ถือเป็นเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญระยะ 2 ปีข้างหน้า 

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นในวาระครบรอบ 6 ปีของการดำเนินงาน “บิทาซซ่า” ซึ่งถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการผลักดันการเติบโตอย่างยั่งยืนของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในภูมิภาค และสนันสนุนเศรษฐกิจไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล  โดยความร่วมมือกับ B2C2 จะช่วยเสริมศักยภาพด้านสภาพคล่องระดับโฮลเซล การจัดการเครดิต และการสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานสำหรับบริการในอนาคต

นายธนวัต สุตันติวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทาซซ่า (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วาระครบรอบ 6 ปี ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญการเติบโตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานรัฐถูกต้องและดำเนินการไปต่ออย่างยั่งยืน สำหรับการร่วมมือกับ B2C2 จะช่วยยกระดับศักยภาพด้านสภาพคล่องและสนับสนุนพันธกิจของเราในการมอบราคาที่แข่งขันได้ระดับโลก ระบบที่ปลอดภัย และการเข้าถึงในระดับสถาบันให้กับตลาดไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างมีนัยสำคัญในปีนี้และปีหน้า 

‘บิทาซซ่า’เปิดเกมรุกเสริมแกร่ง  ตลาดสถาบัน-กลุ่มนักท่องเที่ยว 

ล่าสุดเตรียมผนึกเครือข่ายพันธมิตรที่ร่วมผลักดัน  Bitazza DigiPay เป็นส่วนหนึ่งในโครงการนำร่องภายใต้หลักเกณฑ์ Tourist DigiPay Sandbox โดยขณะนี้ กำลังอยู่ระหว่างขอ ก.ล.ต. เพื่อเข้าทดสอบ Sandbox คาดภายในปีนี้ โดย บิทาซซ่า ได้พัฒนาแอปฯ ทำเสร็จกว่า 80% แล้ว คาดจะมีการประกาศเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อทุกอย่างเรียบร้อย 

“เรายังยืนยันสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเทคโนโลยีบ็อกเชนที่ไม่ใช่ซื้อเก็งกำไร แต่มาแก้ไขปัญหาการเงินดั้งเดิม โดยต้องมองเป็นวาระแห่งชาติ ในการนำคริปโทฯ มาชำระเป็นเงินบาท ให้นักท่องเที่ยว ต่างชาติ ใช้จ่ายได้  ทั้งร้านค้าต่างๆ ที่รับคิวอาร์บุคคล และผ่านธนาคารต่างๆ ด้วย”

นอกจากนี้ บริษัทกำลังทำแคมเปญต่างๆ เพื่อเสริมศักยภาพในการแข่งขัน มุ่งให้คนไทยกลับมาใช้แพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลของคนไทย ด้วยกัน โดยจะคัดเลือกเหรียญต่างๆ  ที่เป็นเหรียญนำกระแสทุกเดือน เพื่อขยายตลาดรายย่อย เพราะทั้งสถาบันและสหรัฐ มีการนำมาใช้เหรียญแล้วเหล่านี้ มาใช้มาขึ้น เป็นสินทรัพย์ที่ทั่วโลกยอมรับและนำมาใช้แล้วไป 

ทางด้าน B2C2 ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2558 และมี SBI Holdings ของญี่ปุ่นเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดสภาพคล่องที่มีงบดุลและสถาพคล่องตนเองที่แข็งแกร่งและไม่มีความเสี่ยงการเหวี่ยงราคาและการเทรด OTC สำหรับสินทรัพย์ดิจิทัลระดับสถาบัน โดยให้บริการสภาพคล่องตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน รวมถึงโซลูชันการเงินครอบคลุมทั้งตลาด Spot และอนุพันธ์ สำหรับธนาคาร บริษัทหลักทรัพย์ และผู้ออกโทเคนสเตเบิลคอยน์ พร้อมระบบบริหารความเสี่ยง และโครงสร้างสถาบันที่ได้มาตรฐาน

นายเดวิด โรเจอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของ B2C2 กล่าวว่า เรามุ่งมั่นที่จะช่วยให้สถาบันในภูมิภาคอาเซียนเข้าถึงสภาพคล่องได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และร่วมกันเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานสินทรัพย์ดิจิทัลของภูมิภาคนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

สำหรับบริการ RFQ ของบิทาซซ่า ซึ่งรองรับการซื้อขายปริมาณมาก ความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยให้บริษัทเข้าถึงสภาพคล่องระดับสถาบันได้โดยตรง พร้อมข้อมูลราคาแบบข้ามแพลตฟอร์ม เพิ่มคุณภาพของการดำเนินคำสั่งซื้อขาย ลดความคลาดเคลื่อนของราคา และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. ประเทศไทย