วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector มีโอกาสได้เห็น downside ในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector มีโอกาสได้เห็น downside ในปี 2568F

โรงแรมต่าง ๆ ที่เราศึกษาอยู่ไม่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุด

เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.7 แมกนิจูดถล่มภาคกลางของประเทศเมียนมาร์ใกล้เมืองสะกายน์ (Sagaing) เหตุการณ์นี้ถือเป็นแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในเมียนมาร์นับตั้งแต่เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ Maymyo ในปี 2455 สำหรับประเทศไทยแล้ว สถานการณ์โดยรวมมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดี โดยที่เส้นทางรถไฟฟ้าทุกเส้นทั้ง BTS, MRT และ SRT กลับมาเปิดให้บริการได้ตามปกติ ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายสรวงค์ เทียนทอง ได้หารือกับหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวถึงผลกระทบของแผ่นดินไหวต่อการท่องเที่ยว ขณะที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) วางแผนที่จะประกาศรายชื่อโรงแรมที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยหลังจากการตรวจสอบแผ่นดินไหวให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรับทราบ ทั้งนี้ นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) กล่าวว่าโรงแรมส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ มีความปลอดภัยและได้รับการตรวจสอบโดยวิศวกรแล้ว แต่ทว่าเหตุการณ์นี้น่าจะส่งผลให้ยอดจองห้องพักในช่วงวันหยุดสงกรานต์ที่จะถึงอาจชะลอตัวลง

คาดว่าธุรกิจโรงแรมจะชะลอตัว QoQ ใน 2Q68F

โดยปกติ การท่องเที่ยวของประเทศไทยจะเป็นช่วง low season ในไตรมาสที่ 2 และ 3 ของปี หลังจากผ่าน
ช่วง high season ของการท่องเที่ยวในไตรมาส 1 เมื่อพิจารณาถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุด เราคาดว่า
เหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลลบอย่างรุนแรงต่อผู้ประกอบการโรงแรมต่าง ๆ ในไทย เนื่องจาก 1) ไตรมาสที่ 2
เป็นช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว และ 2) ไม่มีความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญจากแผ่นดินไหว ทั้งนี้ จากการได้
พูดคุยกับบริษัทในกลุ่มโรงแรมที่เราศึกษาอยู่ ได้ข้อสรุปหลัก ๆ ดังนี้

 

CENTEL – เผยว่าบริษัทจะสูญเสียรายได้จากการยกเลิกห้องพักโรงแรมไปราว 19 ล้านบาท ขณะที่ จะสูญเสียรายได้จากการเช่าห้องประชุมไปบางส่วนราว 15 ล้านบาทจากการเลื่อนและยกเลิกการจอง แต่อย่างไรก็ดี เราคิดว่าผลกระทบนี้จะเกิดน้อยมาก (<1% ของรายได้รวม) จากการที่รายได้ของ CENTEL อยู่ที่ 5-6 พันล้านบาทต่อไตรมาส

ERW – บริษัทไม่ได้รายงานจำนวนการยกเลิกห้องพักที่แน่นอนหลังเกิดแผ่นดินไหว แต่อย่างไรก็ตาม ERW พบว่าอัตราการจองห้องพักชะลอตัวหลังเกิดแผ่นดินไหว โดยที่ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้นแล้วหลังจากเกิดแผ่นดินไหวผ่านไปได้หนึ่งสัปดาห์

MINT - เราไม่เห็นผลลบที่รุนแรงจากแผ่นดินไหวต่อ MINT เพราะสัดส่วนรายได้จากประเทศไทยคิดเป็น 21% ในปี 2566 และ 2567 นอกจากนี้ รายได้จากธุรกิจโรงแรมในไทยคิดเป็นประมาณ 17% ในปี 2567

SHR – SHR จะได้รับผลลบน้อยที่สุดจากแผ่นดินไหว เพราะโรงแรมของบริษัทตั้งอยู่ในภูเก็ต ทั้งนี้ ที่ภูเก็ตไม่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว

เมื่อมองไปข้างหน้า ธุรกิจโรงแรมน่าจะได้แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล จากการที่รัฐบาลกำลังเตรียมออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว (เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกันปี 2568) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้สำหรับ 1 ล้านสิทธิ์ในช่วงเดือน พ.ค. ถึง ก.ย. 68 นอกจากนี้ รัฐบาลจะอุดหนุนค่าใช้จ่ายให้ 50% สำหรับการเดินทางไปยังเมืองท่องเที่ยวหลัก ๆ และ 40% สำหรับเมืองท่องเที่ยวรอง

ERW* ยังคงเป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้

เราคิดว่าอัตราการฟื้นตัวจะเกิดได้ช้าลงจากปัจจัยลบต่าง ๆ ที่เข้ามา (เช่น เหตุการณ์แผ่นดินไหวล่าสุดสงครามการค้าของสหรัฐฯ การชะลอตัวของเศรษฐกิจ) ทั้งนี้ เรายังคงให้น้ำหนักกลุ่มโรงแรม “มากกว่าตลาดฯ” โดยที่ Erawan Group (ERW.BK/ERW TB)* ยังคงเป็นหุ้นเด่นสุดของเราในกลุ่มนี้ ด้วยราคาเป้าหมายปี 2568F ที่ 5.20 บาท (อิงจาก EV/EBITDA ที่ 13.4x หรือ -0.75 S.D.)

 

 

Risk

โรคระบาด ภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอยและเกิดความวุ่นวายทางการเมือง

 

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector มีโอกาสได้เห็น downside ในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector มีโอกาสได้เห็น downside ในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector มีโอกาสได้เห็น downside ในปี 2568F

วิเคราะห์หุ้น : บล.เคจีไอฯ Hotel Sector มีโอกาสได้เห็น downside ในปี 2568F