‘ทีทีบี’ กับ ‘ปีแห่งการช่วยลูกหนี้’ จากผู้ให้กู้…สู่พันธมิตรทางการเงิน

ทีทีบี เดินหน้าช่วยเหลือลูกหนี้ ปี68 ช่วยไปแล้วกว่า 81,000 บัญชี คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 40,000 ล้านบาท ตอกย้ำภาพของ “ปีแห่งการช่วยลูกหนี้”
ภาพของ “ธนาคารพาณิชย์” ในสายตาประชาชนกำลังถูกตั้งคำถามมากขึ้นว่าจะเป็นเพียง “ผู้ปล่อยสินเชื่อ” หรือจะก้าวไปไกลกว่านั้นในการช่วยแก้ปัญหาทางการเงินอย่างแท้จริง
ปี 2568 จึงเป็นอีกหนึ่งปีที่ ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เลือกสะท้อนบทบาทใหม่ของสถาบันการเงิน ผ่านกลยุทธ์ภายใต้แนวคิด The MEANINGFUL Change ที่มุ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย โดยยกระดับตัวเองจากผู้ให้สินเชื่อสู่การเป็น “พันธมิตรทางการเงิน” ที่อยู่เคียงข้างคนไทยในการแก้ปัญหาหนี้อย่างเป็นระบบและยั่งยืน
ผลลัพธ์ตลอดปีสะท้อนออกมาอย่างเป็นรูปธรรม เมื่อทีทีบีสามารถช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านโครงการต่างๆได้แล้วกว่า 81,000 บัญชี คิดเป็นวงเงินรวมกว่า 40,000 ล้านบาท ตอกย้ำภาพของ “ปีแห่งการช่วยลูกหนี้” ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่การประคองสถานการณ์ระยะสั้น แต่เชื่อมโยงไปสู่การสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นในระยะยาว
ฐากร ปิยะพันธ์ ผู้จัดการใหญ่ ทีเอ็มบีธนชาต ฉายภาพให้เห็นว่าการแก้ปัญหาหนี้ที่แท้จริงไม่ควรหยุดอยู่แค่การลดภาระเฉพาะหน้าเพื่อให้ลูกหนี้ให้ “รอดวันนี้” แต่ต้องทำให้ลูกค้ามีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถกลับมามีชีวิตทางการเงินที่แข็งแรงได้อีกครั้ง
ภายใต้บริบทเศรษฐกิจที่ยังเผชิญแรงกดดันหลายด้าน ทีทีบีจึงวางแนวทางดูแลลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่ม ตั้งแต่ลูกหนี้ที่ต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ลูกค้าที่มีวินัยและประวัติการผ่อนชำระดี ไปจนถึงการสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินในระยะยาว ผ่านการให้ความรู้และบริการโค้ชปลดหนี้อย่างต่อเนื่อง
บทบาทดังกล่าวสะท้อนความตั้งใจของธนาคารในการทำหน้าที่เป็นพันธมิตรทางการเงินที่อยู่เคียงข้างคนไทยในทุกช่วงจังหวะของชีวิต มากกว่าการมองความสัมพันธ์กับลูกค้าในมิติของเจ้าหนี้และลูกหนี้เพียงอย่างเดียว
หนึ่งในหัวใจสำคัญของกลยุทธ์ The MEANINGFUL Change คือการผลักดันโครงการ คุณสู้ เราช่วย ซึ่งมุ่งสื่อสารเชิงรุกไปยังลูกค้าของทีทีบีที่เผชิญภาระหนี้หนัก แต่ยังต้องการลุกขึ้นมาสู้ เพื่อเปิดโอกาสให้เข้าถึงการช่วยเหลือและปลดหนี้ได้เร็วขึ้น
ตลอดปี 2568 ธนาคารสามารถช่วยเหลือลูกหนี้บ้านและรถไปกว่า 71,000 บัญชี จากลูกหนี้ที่ผ่านเกณฑ์ 267,000 บัญชี หรือคิดเป็น 27% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนการเข้าร่วมที่สูงที่สุดในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ โดยมีวงเงินการช่วยเหลือรวมอยู่ที่ 37,000 ล้านบาท สินเชื่อรถยนต์ 57,000 บัญชี หรือ 17,000 ล้านบาท สินเชื่อที่อยู่อาศัย 14,000 บัญชี วงเงิน 20,000 ล้านบาท โดยสามารถช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ลูกค้าได้ถึง 800 ล้านบาท
“ผลลัพธ์สำคัญไม่ใช่เพียงตัวเลข แต่คือการช่วยให้ลูกค้าจำนวนมากสามารถรักษาบ้านและรถไว้เพื่อการดำรงชีพ ซึ่งสะท้อนการแก้ปัญหาหนี้ในเชิงโครงสร้างอย่างยั่งยืน”
ไม่เพียงเท่านั้นนอกจากการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ประสบปัญหา ทีทีบียังให้ความสำคัญกับลูกค้าที่มีประวัติผ่อนชำระดี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มักไม่ได้รับการช่วยเหลือมากนัก ผ่านโครงการ ผ่อนดี…มีรางวัล เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทางการเงินที่ดี โดยตลอดปีมีผู้เข้าร่วมโครงการกว่า 10,000 บัญชี วงเงินกว่า 3,000 ล้านบาท
ส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของทีทีบีเติบโตถึง 69% จากปีก่อน และช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ประวัติดีไปกว่า 217 ล้านบาทตลอดสัญญา
นอกจากนี้ทีทีบียังเน้นการสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินให้กับลูกค้าในระยะยาว โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา มีลูกค้าเข้ารับการตรวจสุขภาพทางการเงินออนไลน์ (ttb financial health check) แล้ว 102,000 คน ซึ่งพบว่าลูกค้าเกือบครึ่งหนึ่ง หรือ 48% มีความเสี่ยงด้านการเงิน
“แนวคิด The MEANINGFUL Change ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์ทางธุรกิจ แต่คือความตั้งใจในการสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีความหมายให้กับคนไทยในระยะยาว โดยเชื่อว่าหากประชาชนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง เศรษฐกิจไทยก็จะสามารถเติบโตได้อย่างมีเสถียรภาพและยั่งยืนไปพร้อมกัน”







