เวสต์เทกซัส 77.72 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 82.12 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

+ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสและเบรนท์ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังสถานการณ์ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคตะวันออกกลางบริเวณฉนวนกาซาอาจมีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น ภายหลังรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน ซึ่งมีบทบาทในการเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เสียชีวิตพร้อมกับประธานาธิบดีของอิหร่านในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

+ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งบ่งชี้ว่าคณะกรรมการกลางธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีแนวโน้มที่จะปรับลดขนาดงบดุลลง (QT) จากระดับ 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาอยู่ที่ระดับ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งการปรับลดวงเงินการทำ QT จะส่งผลให้มีสภาพคล่องหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น โดยการปรับลดงบดุลนี้จะเริ่มขึ้นนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 67 

-  อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวที่มีความไม่แน่นอนเรื่องการลดดอกเบี้ย ส่งผลให้ FedWatchTool คาดว่าเฟดจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 5.25-5.50% ครั้งแรกในเดือน พ.ย. 67 ช้ากว่าคาดการณ์เดิมในเดือน ก.ย. 67

-/+ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐฯ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 24 พ.ค. คงที่อยู่ที่ระดับ 497 แท่น ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับลดลง มาอยู่ที่ระดับ 99 แท่น ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค. 64

 

 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดูไบ แม้ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินภายในภูมิภาคมีสัญญาณฟื้นตัวขึ้น ภายหลังปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินของสิงคโปร์ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 พ.ค. 67 ปรับสูงขึ้น 16.9% มาอยู่ที่ระดับ 0.71 ล้านตัน

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดูไบ หลังตัวเลขสต็อกน้ำมันดีเซลคงคลังของสิงคโปร์ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 22 พ.ค. 67 เพิ่มขึ้น 8.14% มาอยู่ที่ระดับ 10.9 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ราคายังคงได้รับแรงกดดันจากปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นที่ปรับเพิ่มขึ้นราว 8.4% มาอยู่ที่ระดับ 0.28 ล้านบาร์เรล ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา