วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว

จากเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังเป็นบวก และการรักษาส่วนต่างดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ-ไทย เพื่อเสถียรภาพทางการเงิน ซึ่งเราคาดผลต่อหุ้นในกลุ่มต่างๆเป็นดังนี้ 1) กลุ่มการเงิน ปัญหาการตั้งสำรองและ NPL รวมไปถึงราคาหลักประกันการกู้ยืมอย่างรถยนต์มือสองที่ยังลดลง จะเป็นปัจจัยถ่วงหุ้นในกลุ่มไปอีกระยะ 2) กลุ่มธนาคาร แม้ 1-2 สัปดาห์หน้าจะมีปัจจัยบวกจากการประกาศเงินปันผล แต่มักตามมาด้วยแรงขายทำกำไร ในช่วง มี.ค.-เม.ย. ประกอบกับส่วนต่างดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ของหุ้นธนาคารจะเริ่มหดแคบลงจากต้นทุนการเงินที่ทยอยปรับเพิ่มขึ้น เรามองการปรับขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์หน้า เป็นโอกาสขายทำกำไร

นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เร่งตัวขึ้นและมาจากจีนที่มีการใช้จ่ายสูง จะเร่งผลประกอบการกลุ่มท่องเที่ยว ม.ค.67 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทย 3.035 ล้านคน (+41% YoY) นำโดยนักท่องเที่ยวจีน 508,563 คน (+453% YoY) ขณะที่คาดการณ์นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวจีนจะเดินทางเข้ามามากในช่วงตรุษจีน การเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เร่งขึ้นจากการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีการใช้จ่ายต่อทริปสูง ส่งผลบวกต่อ ธุรกิจการเดินทางผ่านอากาศยาน โรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ขณะที่เราประเมิน ททท. มีโอกาสปรับเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติขึ้นในการแถลงข่าว 8 ก.พ. ส่งผลวกต่อ AOT, AAV, BA, BAFS, ERW, MINT, CENTEL, SPA เป็นต้น 
 

ประกันสังคมปรับลดค่าใช้จ่ายโรคร้ายแรงมีผลกระทบต่อกำไรจำกัด สำนักงานประกันสังคม มีการปรับลดค่าใช้จ่ายในกลุ่มโรคร้ายแรง (RW>2) ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับรายได้ และการปรับลดรายได้ย้อนหลังของร.พ.ในกลุ่มที่รับผู้ป่วยประกันสังคม (คิดเป็นรายได้ 33-45%) อาทิ BCH, CHG, RJH เป็นต้น อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบกับ BCH พบว่าผลกระทบดังกล่าวอยู่ในระดับไม่เกิน 10 ล้านบาท ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับประมาณการกำไรปี 2566 ของเราที่ 1,335 ล้านบาท ดังนั้นราคาที่ปรับลดลงแรงจึงอาจเป็นการปรับลดลงมากเกินไป

ภาพรวมกลยุทธ์ อาจมีแรงขายทำกำไรบริเวณ 1,400 จุด แต่บรรยากาศเก็งกำไรรายตัวยังบวก เน้นกำหนดจุดตัดขาดทุน ในกลุ่มที่มีแนวโน้มผลประกอบการดีหรือฟื้นตัวชัดเจน อาทิ ท่องเที่ยว ขณะที่อาจเลือกกลุ่มที่ปรับลดลงมาเยอะนับจากต้นปี (อาทิ EA, COM7, IVL, SCGP, KCE, CRC, CBG, TLI, HMPRO, PTTGC)

หุ้นแนะนำ: ERW*, BAFS*, SPA*, BSRC*

แนวรับ: 1,373-1,386 / แนวต้าน : 1,400-1,409 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

 

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

พิชัยนั่งประธานบอร์ด ตลาดหลักทรัพย์ฯ คนใหม่ ที่ประชุมคณะกรรมการตลท.  มีมติเลือก นายพิชัย ชุณหวชิร ให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ คนที่ 18 (อินโฟควสท์)

นายกฯ มองถึงเวลาปรับลดดอกเบี้ย นายเศรษฐา ทวีสิน กล่าวก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี ฝากให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน ไปพิจารณาเรื่องการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย

เศรษฐา เตรียมเจรจา ฮุนมาเนต วันนี้ ประเด็นแบ่งผลประโยชน์พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล(ข่าวหุ้น)

ก.ล.ต. เดินหน้าคุมโปรแกรม Trading โดยเล็งออกมาตรการใหม่-ยกระดับมาตรการเดิม คาดชัดเจนต้นมี.ค.นี้ ยอมรับหุ้นไทยโปรแกรมเทรดเพิ่มขึ้นที่ 30-40% ของวอลุ่มรวม ชี้เป็นไปตามเทรนด์ทั่วโลก แต่น้อยกว่าบางตลาดที่สูงถึง 70% (การเงินธนาคาร)

จีนออกมาตรการคุมการซื้อขายนักลงทุนในประเทศ-ต่างประเทศ หวังสกัดตลาดผันผวน โดยทางการจีนกำลังพยายามสร้างเสถียรภาพในตลาดหุ้น หลังตลาดดิ่งแตะระดับต่ำสุดในรอบ5 ปี 

ทะเลแดงทำค่าระวางเรือพุ่ง OECD เตือนความตึงเครียดใน ทะเลแดง เสี่ยงดันเงินเฟ้อสูงขึ้น เหตุค่าระวางทางทะเลพุ่งแรง 100% อาจทำให้ราคานำเข้าใน 38 ประเทศสมาชิก เพิ่มขึ้นเกือบ 5% (การเงินธนาคาร)

UBS วางแผนขายพันธบัตร AT1 เพิ่ม อีกหลายพันล้านดอลล์ หลังควบรวม Credit Suisse พร้อมตั้งเป้ารักษาอัตราส่วน CET1 ไว้ที่ประมาณ 14% (การเงินธนาคาร)

SIRI สแตนดาร์ด ทำ Branded Residences บุกไทย ดึง แสนสิริ พัฒนาที่อยู่อาศัยหัวหิน 4.5 พันล้านบาท (การเงินธนาคาร)

KEX แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าบริษัทฯได้รับแบบประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการของบริษัทฯ จากบจก. เอสเอฟ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิ้ง(ประเทศไทย) (การเงินธนาคาร)

MGI ตลท.ให้ MGI ใช้เกณฑ์ Cash Balance ระดับ 2 เริ่ม 7-27 ก.พ.67 (อินโฟเควสท์)

 

ประเด็นติดตาม: 7 ก.พ. TH Interest Rate Decision/US Exports(Dec)/แถลงรายงานความเห็นดิจิทัลวอลเลต 8 ก.พ. CN Inflation Rate (Jan)  / Initial Jobless Claims

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)