เวสต์เทกซัส 80.51 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เบรนท์ 84.89 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (6 พ.ย. 66) ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคาน้ำมัน 

-  ราคาน้ำมันดิบ เวสต์เทกซัส ปรับลดลงกว่า 2% หลังตลาดคลายวิตกกังวลว่าอุปทานน้ำมันอาจจะได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ภายหลังจากความคืบหน้าในเรื่องการปล่อยตัวประกันชาวต่างชาติ และถ้อยแถลงของกลุ่ม Hezbollah ที่มีการเปิดเผยว่าความขัดแย้งมีแนวโน้มที่จะรุนแรงขึ้น แต่ไม่ได้มีการประกาศสงครามเพิ่มเติม หรือมีการปลุกระดมเรียกร้องให้มีการใช้กองกำลังเพิ่มเติม

- เศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลง หลังการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือน ต.ค. 66 เพิ่มขึ้นเพียง 150,000 ตำแหน่ง ซึ่งต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่อัตราการว่างงานปรับเพิ่มขึ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 3.9% 

- เศรษฐกิจจีน ยังคงถูกกดดันและฟื้นตัวต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยดัชนีผลผลิตภาคบริการ (Caixin Service PMI) ของภาคเอกชนเดือน ต.ค. 66 ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า แต่ยังต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมเผชิญกับการหดตัวอีกครั้ง

+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวอ่อนค่าลง หลังตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นแล้ว ส่งผลให้เงินทุนเริ่มกลับเข้ามายังสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนจากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มปรับลดลงในเดือน พ.ย. - ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์

 

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงหนุนต่อเนื่องจากการส่งออกไปยุโรปที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม ราคายังได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังสิงคโปร์ที่ปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ จากการส่งออกของจีนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น