วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี ROJNA - ม้ามืด
ROJNA สร้างความประหลาดใจให้กับพวกเราด้วยยอดขายที่ดินครึ่งปีแรกสูงถึง 1,022 ไร่ มากกว่าประมาณการของเรามาก เราจึงปรับประมาณการยอดขายที่ดินเพิ่มมากกว่าเท่าตัวเป็น 1,700–1,966 ไร่ และยอดโอน 1,244–1,748 ไร่ในปี FY23F–FY25F จากอุปทานที่จำกัด
เรามั่นใจว่า ROJNA จะสามารถปรับขึ้นราคาขายที่ดินได้และอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นจากสต๊อกที่ดินต้นทุนต่ำ เราปรับเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นของนิคมฯ 5 – 10% เราได้สะท้อนปัจจัยเหล่านี้และใช้ประมาณการเชิงอนุรักษ์สำหรับโรงไฟฟ้า (ปรับลดราคาขายและอัตรากำไรขั้นต้น) เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรธุรกิจหลัก 94–184% สำหรับปี FY23F–FY25F หลังปรับประมาณการและเลื่อน valuation เป็นกลางปี 2024 เราปรับราคาเป้าหมายเป็น 8.6 บาท และคงคำแนะนำ ซื้อ
ปรับเพิ่มประมาณการยอดขายที่ดินสูงเป็นสถิติใหม่ตั้งแต่ปี 2013 ที่ 1,700 ไร่,1,870 ไร่ และ 1,966 ไร่สำหรับปี FY23F–FY25F
ด้วยอุปสงค์แข็งแกร่งจากลูกค้าจีนจากหลากหลายอุตสาหกรรม (อาหาร, อิเล็กทรอนิกส์, เหล็ก) สนับสนุนยอดขายที่ดินสูงถึง 1,022 ไร่ใน 1H เทียบกับเพียง 239 ไร่ใน 1H22 ซึ่งมากกว่าการประมาณการปี 2023 ของเรามาก นอกจากนี้ ยังมีอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในนิคมอุตสาหกรรมของ ROJNA ในพื้นที่ EEC และอยุธยา บริษัทมียอดจองที่ดินจากลูกค้ามากกว่า 1,000 ไร่ ณ เดือนมิถุนายน
สต็อกที่ดินเก่า อัตรากำไรขั้นต้นสูง
เราคาด ROJNA มีสต็อกที่ดิน 7,000 ไร่ ณ เดือนมิถุนายน 2023 ซึ่งเท่ากับยอดขาย 4 ปี ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและอุปทานที่จำกัด เราเชื่อว่าบริษัทจะสามารถปรับขึ้นราคาขายและอัตรากำไรขั้นต้นได้ตามแนวโน้มของอุตสาหกรรม ROJNA มีต้นทุนส
ต็อกที่ดินต่ำเนื่องจากซื้อมานานกว่า 6 ปีแล้ว จึงทำให้อัตรากำไรใน 1Q23 สูงถึง 40.6% (สูงกว่าเป้าของบริษัทที่ 30%) ถึงแม้จะโอนที่ดินผืนใหญ่ให้ Horizon Plus เราปรับคาดการณ์อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 5% สำหรับนิคมฯ เดิมใน อยุธยา ปราจีนบุรี และระยอง เป็น 45-55% และ นิคมฯ ใหม่ในชลบุรีปรับขึ้น 10% เป็น 40%
ปรับประมาณการรายได้
เราทำการปรับประมาณกำไรธุรกิจหลัก 95% คิดเป็น 1.4 พันล้านบาทในปี FY23F, 94% คิดเป็น 1.6 พันล้านบาทสำหรับปี FY24F และ 184% เป็น 1.8 พันล้านบาทในปี FY25F เราปรับสมมติฐานดังนี้ (i) ปรับยอดโอนขึ้นเป็น 1,2400-1,748 ไร่ เทียบกับประมาณการเดิม 688–908 ไร่ สนับสนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและยอดจองที่ดินยอดขายรอโอนสูงเป็นประวัติการณ์ 1,298 ไร่ ณ เดือนมิถุนายน 2023 (ii) ปรับขึ้นอัตรากำไรขั้นต้นสำหรับนิคมฯ 1-7% เป็น 44.6–44.9% (iii) ปรับลดรายได้ธุรกิจไฟฟ้า 14-22% เป็น 12–15 พันล้านบาทและปรับลดอัตรากำไรขั้นต้น 2-4% จากการปรับลดค่า Ft เดือนกันยายน-ธันวาคมปีนี้
