วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน (23 ส.ค. 66)

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง หลังตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันที่ชะลอตัวลงในประเทศจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก หลังได้รับแรงกดดันจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซา ขณะที่รัฐบาลจีนใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่มากพอที่จะทำให้ฟื้นตัวขึ้นได้ รวมทั้งปรับลดอัตราดอกเบี้ยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

- รัฐมนตรีอิรักและตุรกีกำลังหารือเกี่ยวกับการรื้อฟื้นการส่งออกน้ำมัน หลังตุรกีระงับการสูบน้ำมันดิบ 450,000 บาร์เรล/วัน จากเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถานในอิรักผ่านทางท่อส่งน้ำมันตั้งแต่เดือนมี.ค. 

- นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะกล่าวในที่ประชุมประจำปีกับผู้ว่าการธนาคารกลางทั่วโลก ระหว่างวันที่ 24-26 ส.ค. เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ย หลังวิตกกังวลว่าเฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น

- หลังตลาดปิด สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานสหรัฐฯ (API) เปิดเผยตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 18 ส.ค. 66 ปรับตัวลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล
 

ราคาน้ำมันเบนซิน

ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังอุปทานในภูมิภาคมีแนวโน้มตึงตัวขึ้นจากโรงกลั่นในซาอุดิอาระเบียจะดำเนินการปิดซ่อมบำรุงตามแผนช่วงเดือนต.ค. และ พ.ย. 66

ราคาน้ำมันดีเซล

ราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลในจีนที่ยังคงอ่อนแอ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนจากปริมาณการส่งออกของเกาหลีใต้ที่ปรับลดลง