วิเคราะห์หุ้นรายตัว : บล.กรุงศรี ROJNA - ผลประกอบการ 2Q23 ดีกว่าประมาณการของเรา
กำไรจากธุรกิจหลักสูงกว่าประมาณการของเราเพราะทั้งรายได้ และอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และรายได้เงินปันผลสูงเกินคาด (70 ล้านบาทจาก GULF และ FLT)
ทั้งนี้ กำไรจากธุรกิจหลักใน 2Q23 ดีขึ้นจากที่ขาดทุนจากธุรกิจหลัก 168 ล้านบาทใน 2Q22 เพราะการฟื้นตัวของทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (มีการโอนที่ดิน 248 ไร่ใน 2Q23 เพิ่มขึ้นจาก 151 ไร่ใน 2Q22 และอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 49.9% ใน 2Q23 จากเพียง 12.0% ในปี 2Q22) นอกจากนี้ กำไรของโรงไฟฟ้าก็ยังเพิ่มขึ้นเพราะมีการขึ้นค่า Ft ทำให้ราคาขายไฟฟ้าให้กับ IU เพิ่มขึ้น 27% yoy เป็น 4.52 บาท/kWh แต่ต้นทุนก๊าซธรรรมชาติลดลง 4% yoy เหลือ 404 บาท/MMbtu ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นเป็น 8.5% ใน 2Q23 จาก 1.5% ใน 2Q22 ทั้งนี้ สาเหตุสำคัญที่ทำให้กำไรจากธุรกิจหลักเพิ่มขึ้น 24% qoq มาจากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโรงไฟฟ้า โดยราคาขายไฟฟ้าให้กับ IU ลดลง 9% แต่ต้นทุนก๊าซธรรมชาติลดลงถึง 16% ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 3.8%
… แต่ยังขาดทุนสุทธิ 147 ล้านบาท
เนื่องจากมีผลขาดทุน (หลังหักภาษี) ที่ยังไม่รับรู้จากมูลค่าการลงทุนใน GULF และ Frasers Logistics and Commercial Trust (FLT จดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์) และผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน (หลังหักภาษี) 33 ล้านบาท
กำไรใน 3Q23 จะขึ้นอยู่กับยอดโอนที่ดิน
เราเชื่อว่ากำไรของธุรกิจโรงไฟฟ้าจะทรงตัว qoq ใน 3Q23 เพราะราคาขายไฟฟ้ายังคงลดลงอีก 6.5% และต้นทุนก๊าซธรรมชาติยังจะลดลงอีก 13.3% ทั้งนี้ บริษัทมี backlog ในมืออยู่ 1,298 ไร่ ซึ่งจะสร้างกระแสรายได้ให้บริษัทใน 2H23 และปีหน้า
คงคำแนะนำ ซื้อ
กำไรจากธุรกิจหลักใน 1H อยู่ที่ 739 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 259% yoy ซึ่งดีกว่าประมาณการปี FY23F ของเรา ดังนั้น เราจึงจะทบทวนประมาณการกำไรของเราใหม่ นอกจากผลประกอบการจะออกมาดีเกินคาดแล้ว ยอดขายที่ดินยังสูงเกินประมาณการปี FY23F ของเราด้วย โดยบริษัทขายที่ดินได้ 1,022 ไร่ในงวด 1H23 สูงกว่าประมาณการเต็มปี FY23F ของเราที่ 700 ไร่ และน่าจะทำยอดขายที่ดินในปีนี้ได้ถึง 1,500-2,000 ไร่ ซึ่งเป็นระดับที่สูงอย่างที่ไม่เคยเห็นมาเลยนับตั้งแต่ปี 2013 เราจะทบทวนประมาณการของเราด้วยแนวโน้มทางบวก
