กลยุทธ์การลงทุน : บล.กรุงศรี ศาลรัฐธรรมนูญรับวินิจฉัยคำร้อง.. จะเกิดอะไรต่อไป?

นักวิเคราะห์การเมืองมองว่ามีสอง scenario หลักที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าซึ่งจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของพรรคเพื่อไทย 

 

แนวทางแรก พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อผู้สมัครนายกของทางพรรค (คุณเศรษฐา หรือ คุณแพทองธาร) โดยยังคงรักษาความสัมพันธ์กับพรรคก้าวไกลเอาไว้ (คงสถานะ 8 พรรคร่วมเอาไว้) ซึ่งในกรณีผลน่าจะเป็นเช่นเดียวกับครั้งก่อน คือได้เสียงสนับสนุนจากสว. ไม่พอที่จะตั้งนายกรัฐมนตรีได้  ทำให้ต้องมีการลงมติรอบที่สาม 

 

แนวทางที่สอง โดยในรอบนี้พรรคเพื่อไทยอาจจะตัดสินใจแยกตัวออกจากพรรคก้าวไกล ซึ่งอาจจะทำให้พรรคเพื่อไทยได้เสียงสนับสนุนมากพอที่ตั้งนายกรัฐมนตรี และจัดตั้งรัฐบาลได้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในพรรคร่วมรัฐบาล

 

 

ทั้งนี้หากพัฒนาการเป็นไปในแนวทางนี้จะทำให้ภาพการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น และจะช่วยสนับสนุนสภาวะของตลาดหุ้น ซึ่งตามประมาณการของเรา ดัชนี SET น่าจะขึ้นไปได้ถึงประมาณ 1570-1590 จุด แต่ตลาดยังไม่น่าจะทะลุระดับ 1600 ไปได้จนกว่าจะมีการเปิดเผยนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ออกมาก่อน ในขณะเดียวกัน เรามองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่การจัดทำงบประมาณรัฐบาลปี FY24 จะล่าช้า ซึ่งหมายความว่าน่าจะยังไม่มีมาตรการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเติมเข้ามา (ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของการลงทุนภาครัฐ) จนกว่าจะถึง 2H24 เรามองว่าประเด็นสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือปฏิกิริยาของผู้สนับสนุนพรรคก้าวไกลว่าเป็นอย่างไร เพราะถึงแม้ว่าการประท้วงในเชิงสัญลักษณ์จะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และหากมีปฏิกิริยาที่ใช้ความรุนแรงจะกระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุน 

 

ทั้งนี้ เนื่องจากมีความน่าจะเป็นมากขึ้นที่พรรคเพื่อไทยจะได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล เราจึงจัดทำรายการหุ้นที่เราศึกษาอยู่ซึ่งน่าจะได้รับผลกระทบในเบื้องต้น โดยอิงจากนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยดังแสดงในตารางที่ 2