PTTGC ประมาณการ 1Q66F: โรงกลั่นกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง

PTTGC ประมาณการ 1Q66F: โรงกลั่นกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง

เราคาดว่ากำไรสุทธิของ PTTGC ใน 1Q66F จะอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท (-63% YoY, ฟื้นตัวขึ้น QoQ จากขาดทุนสุทธิ 968 ล้านบาทใน 4Q65)

โดยผลประกอบการที่แย่ลง YoY แต่ดีขึ้น QoQ จะมีสาเหตุสำคัญมาจากเราคาดผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันที่ 1.5 พันล้านบาทใน 1Q66 ลดลงจากที่มีกำไรจากสต็อกน้ำมันสูงถึง 4.9 พันล้านบาทใน 1Q65 แต่ดีขึ้น QoQ จากที่ขาดทุนจากสต็อกน้ำมันถึง 3.5 พันล้านบาทใน 4Q65 เพราะราคาน้ำมันดิบดูไบลดลง 5% QoQ เหลือ US$80/bbl ใน 1Q66 นอกจากนี้ บริษัทยังไม่มีการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นตามแผนนาน 49 วันเหมือนกับใน 4Q65 ดังนั้น อตราการกลั่นจึงน่าจะเพิ่มขึ้นถึง 78% QoQ
เป็น 145KBD เรายังคาดว่า market GRM ของ PTTGC จะเพิ่มขึ้น 5% QoQ เป็น US$10.1/bbl เนื่องจาก ต้นทุน crude premium ลดลง ในขณะเดียวกันเราคาดว่ากำไรของธุรกิจ olefins และ aromatics จะเพิ่มขึ้น QoQ เนื่องจากราคา HDPE, LLPDE และ LDPE ขยับสูงขึ้นเล็กน้อย 2-8% QoQ เป็น US$1,085/ton, US$1,074/ton และ US$1,130/ton ตามลำดับ เนื่องจากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่กลับมาเปิดประเทศ ในขณะที่ spread ของ PX-over-condensate เพิ่มขึ้น 49% QoQ เป็น US$371/ton และ spread ของ BZ-over-condensate พุ่งสูงขึ้นถึง 174% QoQ เป็น US$252/ton ตามลำดับ เนื่องจากเมื่อปลายเดือนมีนาคมมีการปิดโรงงาน Shenghong ในจีนที่มีกำลังการผลิต 2.8MTA แต่อย่างไรก็ตาม อัตราการใช้กำลังการผลิตของ olefines จะลดลง QoQ จาก 76% เหลือ 72% เนื่องจากจะมีการปิดโรงงาน OLE2/2 ที่มีกำลัง
การผลิต 450KTA ตามกำหนดใน 1Q66

 

 

 

ปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F/2567F ลง 2%/3%

เราปรับลดประมาณการกำไรปี 2566F ลง 2% เหลือ 1.12 หมื่นล้านบาท และปี 2567F ลง 3% เหลือ 1.48 หมื่นล้านบาท เนื่องจากค่าการกลั่นลดลง แม้ว่า spread ของ aromatics จะเพิ่มขึ้น โดยเราปรับลดสมมติฐาน market GRM ของ PTTGC ปีนี้ลง 12% เหลือ US$7.2/bbl และปีหน้าลง 9% เหลือ US$6.7/bbl หลังจากที่ปรับลด spread ของน้ำมันเครื่องบินและน้ำมันดีเซลลง 20-25% เหลือ US$18.0/19.0/bbl ในปี 2566F และ US$16.0/16.0/bbl ในปี 2567F ตามลำดับ แต่อย่างไรก็ตาม เราปรับเพิ่มสมมติฐาน spread ของ PX และ BZ ในปีนี้ขึ้นอีก 15-17% เป็น US$300/ton และ US$210/ton และในปีหน้าอีก 10% เป็น US$330/ton และ US$220/ton ตามลำดับ เนื่องจากมีโรงงาน PX ในจีนหนึ่งที่ปิดโรงงานนอกแผนใน
ปลายเดือนมีนาคม และอุปสงค์แข็งแกร่งมากขึ้นจากการเริ่มเปิดดำเนินการโรงงาน PTA ขนาดใหญ่หลายแห่งใหม่ในประเทศจีน

 

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำ ถือ โดยยังคงราคาเป้าหมายปี 2566 เอาไว้เท่าเดิมที่ 45.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA ที่ 7.5x เราเชื่อว่าราคาหุ้นจะถูกกดดันจาก i) อุปทานใหม่ของ olefins ซึ่งจะเพิ่มเข้ามาในตลาดเป็นจำนวนมากในปีนี้ ประกอบด้วยกำลังการผลิตใหม่ของ PE 6.7MTA และ PP 7.3MTA และ ii) ผลการดำเนินงานจากธุรกิจหลักที่อ่อนแอใน 1Q66F ซึ่งเราเชื่อว่าจะเป็นจุดต่ำสุดในรอบปีนี้

 

Risks

ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบ, GRM และ spread ปิโตรเคมี