KTX Zoom (18 เมษายน 2566)

Today’s dominant ideas

คาด SET Index ปรับขึ้น แนวต้าน 1,614/1,620 จุด แนวรับ 1,593/1,585 จุด ทางเทคนิคเกิดสัญญาณขาขึ้นรอบใหม่ หลังวานนี้สร้างจุดสูงสุดระหว่างวัน (Higher High) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 และทะลุแนวต้าน 1,600 จุด ขึ้นมาได้ โดยมีเป้าหมายทดสอบต่อไปที่ 1,614/1,620 จุด ส่วนผลกระทบจากการขึ้นเครื่องหมาย XD วันนี้ มีผลต่อดัชนีฯ -1.31 จุด (ไฮไลท์ คือ KTB ปันผล 0.682 บาท KTC ปันผล 1.15 บาท TCAP 1.90 บาท)

ประเด็นวันนี้ จับตา 1. รายงานผลกำไรบจ. 1Q23E ของสหรัฐฯ นำโดย Bank of America, Bank of New York, Goldman Sach, J&J ฯลฯ และของไทย TISCO คาดกำไร 1,921 ล้านบาท +7%YoY, +6.2%QoQ 2. รายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ USA Fed Beige Book (Fed Atlanta ปรับเพิ่ม US 1Q23E GDP เป็น 2.5% QoQ เมื่อวันที่ 14 เม.ย. สูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับ 1.5% QoQ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.) และ China รายงานตัวเลขเศรษฐกิจเดือน มี.ค. อาทิ ยอดค้าปลีก การลงทุน ฯลฯ โดยไฮไลท์สำคัญวันนี้ อยู่ที่ China 1Q23E GDP โดย Bloomberg Consensus คาดว่าจะรายงานเติบโต +2.2% QoQ, +4% YoY (รูปซ้าย สีฟ้า) เติบโต QoQ (Vs 4Q22 +0% QoQ, 2.9% YoY) โดยมีแรงขับเคลื่อนจากการเปิดประเทศ (รูปขวา) ส่งผลบวกต่อยอดค้าปลีก 1Q23 +3.6% YoY ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม +2.7% YoY การลงทุนสินทรัพย์ถาวร +5.5% YoY ทั้งนี้ ทางการจีนตั้งเป้าเติบโตเศรษฐกิจปีนี้สูงขึ้นจาก 3% เป็น 5% ขณะที่ World Bank คาดเติบโต 5.1% และ IMF คาดเติบโต 5.2%

กลยุทธ์ลงทุนวันนี้ แนะนำ หุ้นที่มี Positive Momentum หากเศรษฐกิจจีนเติบโตดี (China Play) โดยเฉพาะกลุ่มอิงท่องเที่ยว ซึ่งททท. คาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนในปีนี้จะปรับสูงขึ้นเป็น 7-8 ล้านคน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้ใกล้ 30 ล้านคน สร้างรายได้รวม 2.38 ล้านล้านบาท คิดเป็น 80% ของช่วงก่อนเกิดวิกฤติ COVID-19 ปี 2019 เราแนะนำ หุ้นขนาดกลาง TKN ERW SPA สำหรับการเก็งกำไร

 

 

 

Strategic daily picks

TKN   ปิด 9.55 บาท/แนวรับ 8.95 บาท แนวต้าน 10.10 บาท

Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 11.15 บาท โดยคาด 1Q23E รายงานกำไร 128 ล้านบาท เติบโต 104% YoY (อุปสงค์ฟื้นตัว หลังการแพร่ระบาด COVID-19) +5.6% QoQ (ผลกระทบฤดูกาล) และอัตรากำไรยังอยู่ในระดับสูง 30% เพราะสต็อกสาหร่ายราคาต่ำจะยังคงมีอยู่จนถึง 3Q23E และค่าใช้จ่าย SG&A ต่อรายได้รวม ปรับลดลงมาอยู่ที่ 17.6% ส่วนทั้งปี 2023E บริษัทคาดว่าจะมียอดขายเติบโต 15% (สหรัฐฯ 30% ไทย 15% จีน 11.5%) และคาดกำไรสุทธิเติบโต 21% เป็น 528 ล้านบาท

 

ERW  ปิด 4.92 บาท/แนวรับ 4.76 บาท แนวต้าน 5.25 บาท

Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 5.56 บาท โดยคาดกำไรสุทธิ 1Q23 อยู่ที่ 175 ล้านบาท (พลิกจากขาดทุน 313 ล้านบาท YoY, -26.9% QoQ) ธุรกิจโรงแรมยังแข็งแกร่ง และทำระดับสูงสุดในรอบหลายไตรมาสที่ 1.8 พันล้านบาท (+197% YoY, +7% QoQ) และคาด EBIT margin จะขยับขึ้นอีก 0.9 ppts QoQ เป็น 20.3% จากการประหยัดต่อขนาด ส่วนทั้งปี 2023 คาดกำไรสุทธิ พลิกจากขาดทุน -224.19 ล้านบาท เป็นกำไร 518 ล้านบาท

 

SPA  ปิด 11.30 บาท/แนวรับ 10.60 บาท แนวต้าน 11.80 บาท

Consensus ให้ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท อิง PER 54 เท่า โดยคาดกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 28 ล้านบาท พลิกจาก YoY ขาดทุนสุทธิ 57 ล้านบาท, +105% QoQ ท่ามกลางปริมาณลูกค้าที่กลับมาหนาแน่นขึ้น และได้อานิสงส์การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลให้ utilization rate เพิ่มเป็น 80% ใน 1Q23 (4Q22=75%) และสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นใกล้เคียง 60% ใน 1Q23 (4Q22=40%) ขณะที่ เดือน มี.ค.–เม.ย. 2023 SPA ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เกี่ยวข้องกับกัญชา คือ 1) LRL Nano CBD Body Massage Cream เมื่อเดือน มี.ค. 2023 และ 2) CBD Body Oil เมื่อต้นเดือน เม.ย. 2023 โดย Consensus มีมุมมองเชิงบวกต่อผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เนื่องจากจะช่วยหนุนการเติบโตระยะยาว