CPF ประมาณการ 1Q66F: คาดว่าจะขาดทุนสุทธิ

เนื่องจากปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้นจากการที่หลายประเทศกลับมาเปิดประเทศอีกครั้งหลังจากที่สถานการณ์ COVID-19 คลี่คลายลงไป อย่างไรก็ตาม ยอดขายน่าจะลดลงเล็กน้อย 3% QoQ เนื่องจากราคาขายเนื้อสัตว์ลดลง นอกจากนี้ ราคาหมูที่ลดลงน่าจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงมูลค่าเหมาะสมของสินทรัพย์ชีวภาพ ทำให้มีผลขาดทุนในส่วนนี้ 700 ล้านบาท จากที่มีกำไร 1.1 พันล้านบาท ใน 1Q65 และ 469 ล้านบาทใน 4Q65

 

GPM ถูกบีบเพราะราคาเนื้อสัตว์ลดลง

เราคาดว่า GPM จะลดลง 230bps YoY และ 40bps QoQ เหลือ 10.5% เนื่องจาก margin ของทั้งธุรกิจสัตว์น้ำ และปศุสัตว์ลดลง โดยธุรกิจสัตว์น้ำยังคงเผชิญความท้าทายต่อเนื่องจากปีที่แล้ว จากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูง และโรคระบาดในกุ้ง ในขณะเดียวกัน ธุรกิจปศุสัตว์ถูกกดดันจากราคาเนื้องสัตว์ที่ลดลง และต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูง โดยเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นในหลายประเทศน่าจะทำให้สัดส่วน SG&A ต่อยอดขายเพิ่มขึ้น 40bps YoY เป็น 9.1% ในขณะที่ต้นทุนค่าระวางที่ลดลงจะส่งผลให้ SG&A ลดลง QoQ เราคาดว่าค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะทรงตัว QoQ อยู่ที่ 6.0 พันล้านบาท แต่จะเพิ่มขึ้น 34% YoY

 

 

 

ผลขาดทุนจาก CTI จะฉุดส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือ

เราคาดว่า CTI (ธุรกิจอาหารสัตว์และฟาร์มหมูในประเทศจีน) จะมีผลขาดทุนในไตรมาสนี้จากทั้งผลขาดทุนจากการดำเนินงาน และผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพ ในขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจค้าปลีกน่าจะลดลงทั้ง YoY และ QoQ เนื่องจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภค และดอกเบี้ยสูงขึ้น ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจในเครือ และ JVs อยู่ที่ 163 ล้านบาท (จากขาดทุน 336 ล้านบาทใน 1Q65, -94% QoQ)

 

Valuation & action

เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ตกลงมาในช่วงนี้สะท้อนแนวโน้มกำไรที่อ่อนแอใน 1Q66F ไปเรียบร้อยแล้ว โดยหุ้น CPF อยู่ที่ระดับ PBV ต่ำเพียง 0.7x ในขณะที่เราคาดว่าผลประกอบการใน 2Q-3Q66F จะฟื้นตัวขึ้น QoQ จากราคาเนื้อสัตว์ที่เพิ่มขึ้น และส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจค้าปลีก เรายังคงคำแนะนำซื้อ CPF โดยประเมินราคาเป้าหมาย SoTP ปี 2566 ที่ 27.50 บาท (18.40 บาทจากธุรกิจค้าปลีก และ9.10 บาทจากธุรกิจเกษตร)

 

Risks

ต้นทุนอาหารสัตว์สูง, เศรษฐกิจโลกถดถอย, ความผันผวนของราคาเนื้อสัตว์