เน้นเลือกหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มกำไรฟื้นตัวดีในปี 2566

เน้นเลือกหุ้นรายตัวที่มีแนวโน้มกำไรฟื้นตัวดีในปี 2566

ประธานเฟดยังคงให้ความเห็นเป็นบวกต่อทิศทางเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลง ในการกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตัน (Economic Club of Washington) ประธานเฟดยังคงให้ความเห็นว่าภาวะเงินเฟ้อที่ลดลง (Disinflationary) เริ่มปรากฎให้เห็นแล้ว

และในปี 2566 จะเป็นปีที่เงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญอย่างไรก็ตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดใน ม.ค. ทำให้เฟดยังมีความจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อ และจำเป็นที่จะต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับคุมเข้ม (Restrictive Level) เอาไว้อีกระยะ ทั้งนี้ภาพรวมการแถลงไม่แตกต่างจากการตอบคำถามหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) เมื่อ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีค่าเงินสหรัฐฯ (Dollar Index) อ่อนค่าลงเล็กน้อย ถือว่าเป็นบรรยากาศบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง

 

ติดตามการปรับพอร์ตของนักลงทุนต่างชาติและ MSCI Rebalancing พรุ่งนี้ การแข็งค่าอย่างรวดเร็วของเงินบาทถึง 15% จาก 38 เหลือ 32.5 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เงินทุนระยะสั้นชะลอ และมีการปรับพอร์ตขายทำกำไรระยะสั้นทั้งหุ้นและตราสารหนี้ อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองเชิงบวกต่อเงินทุนต่างชาติไหลเข้าในช่วงครึ่งปีแรก แม้อาจลดลงจากปีก่อนหลังทิศทางเศรษฐกิจในหลายประเทศปรับดีขึ้น ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติมีทางเลือกมากขึ้นในการกระจายการลงทุน // ติดตาม MSCI Rebalancing วันที่ 9 ก.พ. (ทราบผลเช้า 10 ก.พ.) ว่าจะมีหุ้นใดถูกนำเข้า-ออกจากการคำนวณดัชนี รวมถึงทิศทางการปรับเพิ่ม-ลด น้ำหนักหุ้นไทย เมื่อเทียบกับภูมิภาค

 

 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, AJ, PTL, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ WHA, AMATA, ROJNA 4) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP, BGRIM, GPSC, EGCO 5)  หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ DMT, TVDH, FLOYD, SORKON, ASW, S, CBG, AEONTS 6) กลุ่มน้ำตาล เข้า high season และปริมาณการผลิตไทยสูงสุดในรอบ 3 ปี ดีกับ KSL, KTIS, KBS, BRR

 

ภาพรวมกลยุทธ์: ตลาดยังมีบรรยากาศเก็งกำไรเชิงบวก แม้อาจจะผันผวนจากงบรายตัวในระยะสั้นบ้างก็ตาม การเก็งกำไรระยะสั้นเน้นหุ้นที่ยัง Laggard และเปิดเมืองที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่จะลดลง รวมถึงหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว //หุ้นแนะนำ: BJC*, MAJOR*, S*, SAMART*

แนวรับ: 1,673 / แนวต้าน : 1,695 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

ตุรกีระงับส่งน้ำมันไปเมดิเตอร์เรเนียนหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ – ตุรกีระงับการดำเนินการส่งออกน้ำมันดิบไปยังท่าเรือในเมืองเจย์ฮันริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้า หลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในประเทศ 

BP กำไรปี 65 ทำนิวไฮ อานิสงส์ราคาพลังงานพุ่ง- กำไรปี 2565 แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าของกำไรปีก่อนหน้า เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มสูงขึ้นหลังจากรัสเซียบุกเข้าโจมตียูเครน กำไรต้นทุนทดแทนพื้นฐาน (Replacement cost profit) ซึ่งใช้เป็นตัวแทนกำไรสุทธิ แตะ 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2565 นักวิเคราะห์คาดว่ากำไรสุทธิจะแตะ 2.76 หมื่นล้านดอลลาร์สำหรับทั้งปี 2565 

SoftBank ขาดทุน 5.9 พันล้านดอลล์ใน Q3/65 – เนื่องจากกองทุนวิชัน ฟันด์ (Vision Fund) ของบริษัทเผชิญกับภาวะตลาดเทคโนโลยีที่ซบเซา ทำให้บริษัทขาดทุนเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ไตรมาส

สรท.คาดส่งออก Q1/66 หดตัว 3-5% ก่อนฟื้นเป็นบวก มองทั้งปีโต 1-2% –  เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แม้การส่งออกในเดือน ม.ค.จะขยายตัวได้ดีกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนก็ตาม แต่ทั้งปียังมั่นใจว่าจะขยายตัวได้ 1-2%

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่อเนื่องเดือนที่ 4 – SET เปิดเผยว่า ในเดือนม.ค.66 มีเงินลงทุนเคลื่อนย้ายมายังตลาดหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทยจากเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวดีต่อเนื่องและมีข่าวดีจากการเปิดประเทศของจีน ส่งผลให้ผู้ลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิรวมทั้งในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยกว่า 5.8 หมื่นล้านบาท

นายกฯ คาดนักท่องเที่ยวต่างชาติปีนี้เกิน 30 ล้านคน – มั่นใจว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทย มีโอกาสจะมากกว่า 30 ล้านคน จากเดิมที่เคยประมาณการไว้เมื่อต้นปีที่ 20 ล้านคน และเริ่มปรับขึ้นมาเป็น 28 ล้านคน โดยนายกฯ ขอให้เฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่ที่อาจจะเข้ามาพร้อมนักท่องเที่ยว

หุ้น IPO เทรดวันแรก วันนี้ – SVR หรือ บมจ. สิวารมณ์ เรียลเอสเตท เข้าเทรดตลาด mai ภายใต้กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ราคา IPO 2.20 บาท

 

ประเด็นติดตาม: 8 ก.พ. – US Crude Oil Inventories / 9 ก.พ. - Initial Jobless Claims / 14 ก.พ. – US CPI / 15 ก.พ. – EU Core Retail Sales, US Retail Sales / 16 ก.พ. – US Building Permits, US PPI

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)