เลือกเก็งกำไรรายตัว เน้นในหุ้น Laggard ที่มีอัพไซด์จากการเปิดเมืองของจีน

เลือกเก็งกำไรรายตัว เน้นในหุ้น Laggard ที่มีอัพไซด์จากการเปิดเมืองของจีน

การเปิดประเทศของจีนเป็นบวกที่มีนัยสำคัญ แม้ในระยะสั้นจิตวิทยาการเก็งกำไรอาจชะลอลงบ้าง จากข่าวหลายประเทศเตรียมออกมาตรการตรวจสอบการเดินทางเข้าประเทศของนักท่องเที่ยวจากจีน หรือจำกัดเที่ยวบินในระยะเริ่มต้น

อย่างไรก็ตามเรายังคงมองบวกระยะยาวกับการเปิดประเทศของจีนเนื่องจาก 1) การเปิดประเทศของจีนที่จะเริ่มตั้งแต่ 8 ม.ค.66 เร็วกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปี 2566 ถือเป็นอัพไซด์ที่มีนัยสำคัญต่อหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยวและเปิดเมือง 2) บวกต่อเศรษฐกิจไทย โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีแนวโน้มปรับเพิ่มคาดการณ์นักท่องเที่ยวปี 2566 เป็น 25 ล้านคน (จาก 20 ล้านคน) 3) เป็นอัพไซด์ให้กับกลุ่มบริการทางการแพทย์ เนื่องจากน่าจะเห็นการเดินทางมาเพื่อรับวัคซีน หรือการจัดกลุ่มทัวร์สุขภาพเพื่อฉีดวัคซีนในระยะต่อไป (ขึ้นกับนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข)

 

กลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าจะได้ประโยชน์จากการเปิดประเทศของจีน ได้แก่ 1) กลุ่มเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้าง) MINT, CENTEL, ERW, AOT, AAV, SPA, VRANDA 2) หุ้นได้ประโยชน์จากเศรษฐกิจจีนฟื้นตัว (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) ได้แก่ PTTGC, IRPC, SCGP, AJ, PTL, SCC, PTTEP, PTT 3) กลุ่มบริโภคและการย้ายฐานการผลิต ได้แก่ CPALL, MAKRO, TKN, WHA, AMATA เป็นต้น เรามองหุ้นเด่นที่น่าสนใจได้แก่ MINT, SPA, VRANDA, PTTGC, SCGP เป็นต้น // ทั้งนี้แม้กลุ่มการเงินจะยังมีปัจจัยถ่วงเรื่องหนี้เสีย (NPL) แต่เศรษฐกิจที่ดีขึ้นจากการมาของนักท่องเที่ยวจีน มีโอกาสช่วยเพิ่มคุณภาพลูกหนี้ได้ ทำให้กลุ่มการเงินเป็นกลุ่มที่น่าสนใจทยอยสะสม จากโอกาสที่เศรษบกิจที่ดีขึ้น จะช่วยทำให้คุณภาพของลูกหนี้ดีขึ้น และ NPL อาจผ่านจุดสูงสุดเร็วกว่าคาด
 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ 1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR  2) การขายไฟพลังงานทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP 3) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด ADVANC, EGCO, RATCH 4) อสังหาริมทรัพย์ SPALI, AP, LH, ASW 5) หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ STP, TNR, DMT, TVDH, KLINIQ, FLOYD

 

ภาพรวมกลยุทธ์: หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีน (พลังงาน ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวโดดเด่นในระยะสั้น เน้นตัวที่ยัง Laggard หรือที่มีสัดส่วนรายได้จากคนจีนสูงมากๆ ขณะที่กลุ่มน้ำตาลเข้าสู่ high season ของการหีบอ้อย ได้ผลดีจากทั้งราคาน้ำตาลและปริมาณการผลิตที่สูงสุดในรอบ 3 ปี//หุ้นแนะนำ: ESSO, SCGP, VRANDA, KSL

แนวรับ: 1,630 / แนวต้าน : 1,652-1,670 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50
 

 

 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 6 – ลดลง 4.0% mom ในเดือนพ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าดัชนีลดลงเพียง 0.8%

นักลงทุนเทน้ำหนักคาดเฟดขึ้นดบ.เพียง 0.25% ในเดือนก.พ.66 – ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุม ก.พ.66 ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 27%

จีนอนุญาตต่างชาติเข้าประเทศไม่ต้องตรวจ PCR – มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ม.ค.2566

ราคาหุ้นแอปเปิ้ลและเทสลาร่วงหนัก นลท.กังวลการผลิตในจีนชะงัก - ราคาหุ้นของบริษัทแอปเปิ้ลร่วงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2564 ขณะที่ราคาหุ้นของบริษัทเทสลาร่วงลง 73% จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย. 2564

รัสเซียปัดตกแผนสันติภาพของยูเครน - รัสเซียไม่สามารถยอมรับแผนการสันติภาพทั้ง 10 ข้อของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน

แบงก์ไทยเตรียมขึ้นดอกเบี้ยกู้ 0.4% ต่อปี 1 ม.ค. 66 - ธปท. จะมีการปรับอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ให้กลับเข้าสู่อัตราปกติที่ 0.46%ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 0.23% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 เป็นต้นไป ส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ จำเป็นต้องทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.4% ต่อปี ตามที่ได้ปรับลดไป 0.4% ในช่วงก่อนหน้า

คมนาคม เสนอโครงการใหญ่รถไฟฟ้าไทย-จีน เฟส 2 และรถไฟทางคู่ – กว่า 5 แสนล้านบาท เข้าครม.ภายใน ม.ค.-ก.พ.66 แลนด์บริดจ์ ชุมพร-ระนอง เสนอต้นปี

INTUCH ขายหุ้น THCOM ให้ GULF – ผู้ถือหุ้น THCOM โหวตคะแนนเสียงท่วมท้น 94.78% ขายหุ้น THCOM สัดส่วน 41.13% มูลค่า 4,473 ลบ. ให้ GULF จับตาชำระค่าเงิน-รับโอนหุ้นเสร็จสิ้น 30 ธ.ค. 65 ฝั่ง GULF เตรียมรับเงินปันผล 2,000 ลบ. หลังบอร์ด INTUCH อนุมัติจ่ายปันผล 1.40 บาท 

หุ้นซื้อขายวันสุดท้าย – ABICO (3 ม.ค.), UPA-W2 (3 ม.ค.)

 

ประเด็นติดตาม: 4 ม.ค. - ISM Manufacturing PMI, JOLTs Job Openings / 6 ม.ค. – EU CPI, Nonfarm Payrolls, US Unemployment Rate, ISM Non-Manufacturing PMI / 12 ม.ค. – US CPI / 13 ม.ค. – EU Industrial Production / 18 ม.ค. – EU CPI, US Retail Sales, US PPI   

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)