โบรกคาด‘กลุ่มท่องเที่ยว’คึกคัก อานิสงส์ ‘นักท่องเที่ยวระยะไกล’

“กลุ่มท่องเที่ยว” คาดกลับมา “คึกคัก” ช่วงปลายปี รับ “นักท่องเที่ยวลองฮอล” จากยุโรป-สหรัฐ และตะวันออกกลาง “บล.เอซีย พลัส” เผยต่างชาตินิยมเที่ยวทะเล ยอดจองห้องพักเพิ่ม
KEY
POINTS
- ภาคการท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2568 ถึงต้นปี 2569 มีแนวโน้มฟื้นตัวคึกคัก โดยได้รับแรงหนุนหลักจากนักท่องเที่ยวตลาดระยะไกล (Long-haul)
- ธุรกิจโรงแรมโดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวนอกกรุงเทพฯ และธุรกิจสนามบินเป็นกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์โดยตรง
- การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนถือเป็นอีกปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่น
- โบรกเกอร์มองเป็นโอกาสลงทุนในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง เช่น AOT, CENTEL และ ERW เพื่อรับอานิสงส์จากการฟื้นตัว
เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายปีบรรยากาศการท่องเที่ยวคาดว่าจะกลับมา “คึกคัก” หลังล่าสุด ททท. คาดการณ์นักท่องเที่ยว “ตลาดระยะไกล” (Long-haul) เดินทางมาประเทศไทย โดยคาดปี 2569 ทำนิวไฮ
นายภาสกร หวังวิวัฒน์เจริญ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเชีย พลัส เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจท่องเที่ยวช่วงปลายปี 2568 มีสัญญาณการฟื้นตัว ซึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวจากตลาดระยะไกล หรือ “นักท่องเที่ยวลองฮอล” ที่เดินทางมาท่องเที่ยวกันมากขึ้นในช่วงสิ้นปี โดยคาดว่าจะช่วยบรรเทาความบอบช้ำของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรมกลุ่มนักท่องจีนในตลาดระยะใกล้ หรือ “นักท่องเที่ยวช็อตฮอล” ที่หายไปได้
ธุรกิจโรงแรมถือเป็นธุรกิจในกลุ่มการท่องเที่ยวที่ได้รับผลประโยชน์จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวโดยตรง โดยเมื่อดูผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4 ของปี 2568 จะพบว่าปรับตัวสูงขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า
นอกจากนี้ เมื่อเทียบปริมาณห้องพักที่ถูกจับจองในกลุ่มธุรกิจโรงแรมด้วยกันโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวต่างจังหวัดยังคงถือว่าทำผลงานได้ดีกว่าโรงแรมในตลาดกรุงเทพ เนื่องจากจุดหมายปลายทางที่เป็นที่นิยมในช่วงสิ้นปีของนักท่องเที่ยวลองฮอลมักจะเน้นไปที่การท่องเที่ยวพักผ่อนริมทะเลหรือบริเวณชายหาด เช่น พัทยา หรือภูเก็ต
ทั้งนี้ คาดการณ์ช่วงไตรมาสแรกของปี 2569 ถือเป็นช่วง “ไฮซีซั่น” ของการท่องเที่ยวไทย โดยทั้งนักท่องเที่ยวลองฮอลและช็อตฮอลมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น สาเหตุหนึ่งมากจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนที่ทยอยฟื้นตัวต่อเนื่องจากการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พยายามผลักดันกลยุทธ์ทางด้านการตลาดอย่างต่อเนื่อง
นายภาสกร กล่าวต่อว่า ธุรกิจที่น่าลงทุนรับ “ธีมท่องเที่ยว” ในช่วงสิ้นปีนี้ไปจนถึงปีหน้า ยังคงเน้นไปที่ธุรกิจสนามบิน อย่าง AOT และกลุ่มธุรกิจโรงแรม เช่น CENTELและ ERW ที่ปัจจุบันมีราคาไม่แพง เนื่องจากราคาหุ้นมีการปรับลดลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาจเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อ
นายพิริยพล คงวาณิช ผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์พื้นฐาน สายงานวิจัย บล. บัวหลวง มุมมองว่า นักท่องเที่ยวอยู่ในโหมดฟื้นตัวต่อเนื่อง หลังผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 ปีนี้แล้ว และ ตัวเลขนักท่องเที่ยวครึ่งเดือนแรก ธ.ค. เพิ่มขึ้น 10% (เทียบครึ่งแรกของพ.ย.) จากจีน เพิ่มขึ้น 12%, อินเดีย เพิ่มขึ้น 10.2% ,รัสเซีย เพิ่มขึ้น 8.6% ขณะที่ มาเลเซีย ลดลง 21% จากปัจจัยหนุนโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กระตุ้นตลาดจีนช่วงไฮซีชัน และกรณีจีนทะเลาะญี่ปุ่น
ทั้งนี้ ปีนี้ยังมองจำนวนนักท่องเที่ยวรวมจาก 35.5 ล้านคนปี 2567 มาอยู่ที่ 33.2 ล้านคน ในปีนี้ และ 34 ล้านคนปี 2569 Upside จะมาจากตัวเลขนักท่องที่ยวจีนที่คาดจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง upside จากความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์จีน-ญี่ปุ่น สำหรับ หุ้นท่องเที่ยวเด่น โดยยังคงมอง AOT , CENTEL ยังเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์สูงสุด
บทวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่า ธุรกิจในกลุ่มท่องเที่ยวในช่วงปลายปี 2568 จนถึงต้นปี 2569 จะส่งสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวแต่เมื่อมองลึกลงไปเราก็อาจเห็นภาพการฟื้นตัวที่ไม่พร้อมกันในแต่ละกลุ่มธุรกิจโดยมองไปในระยะข้างหน้า “การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์” อาจไม่ได้ปัจจัยที่ช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมทางการแพทย์ทั้งอุตสาหกรรมอีกต่อไป แต่กลุ่มผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาจะกลายเป็นปัจจัยที่สร้างความแตกต่างที่ชัดเจนในแต่ละธุรกิจ
ทั้งนี้ ด้วยตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีหน้าที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องราว 4-6% เมื่อเทียบกับปีนี้ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจะเข้ามาเป็นเป็นปัจจัยสำคัญที่เอื้อต่อการฟื้นตัวของธุรกิจสายการบินของไทย โดยสายการบินโลวคอสต์
นายรัฐศักดิ์ พิริยะอนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า รายงานล่าสุด เดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ภาพการฟื้นตัวนักท่องเที่ยวต่างชาติถือว่าเป็นไปตามที่เราคาด ตามสถิติในอดีตที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวจะเริ่มฟื้นตัวได้ภายใน 6-7 เดือน หลังมีเหตุการณ์เชิงลบเข้ามากระทบความเชื่อมั่น และหลังจากนั้นจะเริ่มมีการฟื้นตัวให้เห็น
หากมองไปข้างหน้าประเมินตัวเลขนักท่องเที่ยวมีทิศทางฟื้นตัวได้ต่อ โดยคาดภาพรวมตัวเลขนักท่องเที่ยวปี 2568 จะอยู่ที่ 32.9 ล้านคน ลดลงราว 7.4% จากปีก่อน แต่จะฟื้นตัวขึ้นในปีหน้า 2569 ขึ้นมาอยู่ที่ 34.1 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 3.6% จากปีก่อน โดยเฉพาะจากตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าจะฟื้นได้ 25% จากปีก่อน อีกทั้ง ได้รับแรงหนุนบวกทางอ้อมจากความขัดแย้งระหว่าง จีน กับ ญี่ปุ่น ทำให้มีข่าวเรื่องการยกเลิกเที่ยวบินและโรงแรมที่พักในญี่ปุ่นจากนักท่องเที่ยวจีน
ส่งผลให้มีโอกาสที่ทั้ง ไทย เกาหลี และเวียดนาม จะได้รับประโยชน์จากตรงนี้ โดยเฉพาะในระยะสั้นช่วง ไตรมาส 4 ปี 2568 ถึง ไตรมาส 1 ปี 2569 ที่จะเป็น High season ของภาคการท่องเที่ยว ดังนันเรามองหุ้นที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการท่องเที่ยวมีแนวโน้มได้อานิสงค์บวกเช่น ERW CENTEL AAV BA







