โบรกเผย SAPPE คาดปี 69 ฟื้น หลังยอดขายต่างประเทศกลับมาโต

บล.ลิเบอเรเตอร์คาดการณ์ว่าผลประกอบการของ SAPPE จะฟื้นตัวในปี 2569 โดยมีปัจจัยหลักจากการกลับมาเติบโตของยอดขายในต่างประเทศ บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2569 เติบโต +15% จากการที่ปัญหาต่างๆ ในตลาดต่างประเทศคลี่คลายลง เช่น ปัญหาสต็อกในยุโรป และการฟื้นตัวของกำลังซื้อในตะวันออกกลาง
KEY
POINTS
- บล.ลิเบอเรเตอร์คาดการณ์ว่าผลประกอบการของ SAPPE จะฟื้นตัวในปี 2569 โดยมีปัจจัยหลักจากการกลับมาเติบโตของยอดขายในต่างประเทศ
- บริษัทตั้งเป้ายอดขายปี 2569 เติบโต +15% จากการที่ปัญหาต่างๆ ในตลาดต่างประเทศคลี่คลายลง เช่น ปัญหาสต็อกในยุโรป และการฟื้นตัวของกำลังซื้อในตะวันออกกลาง
- บริษัทจะเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาเพื่อกระตุ้นยอดขาย
- นักวิเคราะห์ประมาณการยอดขายปี 2569 แบบระมัดระวังไว้ที่ 5,759 ล้านบาท (+9% y-y) และคาดการณ์กำไรสุทธิที่ 874 ล้านบาท (+6% y-y) จากการฟื้นตัวในตลาดหลัก
นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บล.ลิเบอเรเตอร์ เปิดเผยว่า บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) SAPPE ไตรมาส 3/68 กำไรเพียง 183 ล้านบาท หด -39% y-y และ -26% q-q กำไรยังไม่ฟื้นตัวเนื่องจากยอดขายในต่างประเทศที่ยังอ่อนแอ โดยยอดขายรวมอยู่ที่ 1,349 ล้านบาท โดยในประเทศ 28% ของยอดขาย ยอดขายโต +2% y-y
ขณะที่ยอดขายต่างประเทศ 72% ยอดขายหดตัว -19% y-y ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกอ่อนแอ, ค่าเงินบาทแข็งค่า, ปัญหาภาษีนำเข้าสหรัฐ และสงครามในตะวันออกกลางส่งผลให้กำลังซื้อหดตัว อย่างไรก็ตามเริ่มเห็นการฟื้นตัวของคำสั่งซื้อในบางภูมิภาคหลังเข้าไปจัดการปัญหาสต็อกเช่นยุโรป
ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นหดตัวเหลือ 43.5% จาก 46% ปีก่อน ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าราว 1.2% และการใช้อัตรากำลังการผลิตต่ำเพียง 56% ขณะที่ค่าใช้จ่ายขายและบริหารลดลง -8% y-y และ -8% q-q ตามยอดขายที่ลดลง
ทั้งนี้ ปรับประมาณการลงจากเดิม จากการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาด และแนวโน้มไตรมาส 4/68 ที่คาดจะอ่อนตัวลง q-q ทำให้เราคาดว่าจะกระทบต่อการดำเนินงานทำให้เราปรับลดประมาณการลงจากเดิม ปรับยอดขายลงมาอยู่ที่ 5,266 ล้านบาท ลดลง -22% y-y พร้อมปรับลดอัตรากำไรขั้นต้นลงเหลือ 44.2% ตามเงินบาทแข็งค่า และยอดขายที่ลดลงจากการใช้กำลังการผลิตลดลง และปรับลดกำไรสุทธิลงเหลือ 823 ลบ. -34% y-y
สำหรับ แผนในปี 2569 ของบริษัทคาดยอดขายโต +15% y-y จากตลาดต่างประเทศที่กลับมาเติบโตสูงหลังปัญหาต่าง ๆ คลี่คลายลง โดยในยุโรปการแก้ไขปัญหาสต็อกดีขึ้น สหรัฐจะเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น และตะวันออกกลางคาดจะฟื้นตัวได้เช่นกัน ขณะที่ในเอเชียอาจต้องรอกำลังซื้อฟื้นตัว ส่วนตลาดในประเทศคาดจะโตไม่มาก
อย่างไรก็ตาม ประมาณการยอดขายแบบระมัดระวัง คาดยอดขาย 5,759 ล้านบาท +9% y-y จากการฟื้นตัวในตลาดหลักที่ปัญหาคลี่คลาย แม้ราคาวัตถุดิบคาดยังอยู่ในระดับต่ำ และสัดส่วนการขายในต่างประเทศเพิ่มขึ้น แต่เงินบาทแข็งค่าทำให้แนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นนั้นปรับขึ้นได้จำกัดคาดที่ 44.5% และคาดกำไรสุทธิ 874 ล้านบาท +6% y-y







