Sideways ซื้อเก็งกำไรเป็นรายตัว CPN AAV SNNP

Sideways ซื้อเก็งกำไรเป็นรายตัว CPN AAV SNNP

คาดดัชนีฯ เคลื่อนไหวในทิศทาง Sideways แนวต้าน 1,651/1,660 จุด แนวรับ 1,635/1,630 จุด ปัจจัยลบ คือ รายงาน PMI ภาคบริการเดือน พ.ย. ที่สูงกว่าคาดการณ์ ทำให้การปรับลดลงของเงินเฟ้ออาจไม่ลดลงเร็วอย่างที่ตลาดคาดการณ์

ส่วนปัจจัยบวก คือ รายงานแนวโน้มเงินเฟ้อไทยเดือน พ.ย. มีสัญญาณชะลอตัวลงต่อเนื่อง ทำให้โอกาสสูงขึ้นที่กนง.ยังคงปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป (คาดปรับขึ้น 0.75% เป็น 2.0% ในปี 2023E โดยปรับขึ้นครั้งละ 0.25%) ส่วนสัญญาณทางเทคนิคยังคงเป็นสัญญาณขาขึ้น แต่เริ่มเข้าเขต Overbought Area ทำให้การปรับขึ้นเริ่มทำได้จำกัด เราคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไรเป็นรายตัว หุ้นแนะนำวันนี้ CPN AAV SNNP

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC CK CENTEL BEM CPALL AOT EA PTG CPN MINT KTB TTB BDMS PLANB

+ Daily Recommendations: CPN (โมเมนตัมบวกจากความคาดหวังว่ารัฐฯ จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะกำไร 4Q22E ได้ปัจจัยบวกจากการเข้าสู่ช่วง High Season ของการจับจ่ายใช้สอย) AAV (กำไร 4Q22E จะเป็นจุดสูงสุดของปี 2022E จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในช่วง High Season) SNNP (ยอดขาย 4Q22E มีแนวโน้มขยายตัวได้ดีต่อเนื่องทั้ง QoQ และ YoY ในช่วงเทศกาล World Cup และเทศกาลปีใหม่)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022: CRC HMPRO BJC MAKRO CPALL OSP

+ หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ: ERW CENTEL AWC AOT AAV BA BAFS CPALL CRC SNNP

+ หุ้นที่คาดว่าจะถูกเพิ่มคำนวณ SET50 Index งวด 1H23E: +DELTA RATCH COM7 CENTEL –BLA IRPC KCE SAWAD และ SET100 Index +DELTA NEX THG AAV JAS SABUY -AEONTS MAJOR STEC SYNEX TASCO TTA

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากงาน Motor Expo ในวันที่ 1-12 ธ.ค.: TTB SCB AH SAT

 

ปัจจัยบวก

+ China: การผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 ในจีน ช่วยหนุนให้เศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มฟื้นตัว และทำให้ภาพรวมการค้าโลกมีโอกาสปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะช่วยหนุน Sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้

 

ปัจจัยลบ

- US: ตัวเลข ISM PMI ภาคบริการเดือน พ.ย. ออกมาดีกว่าคาด อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ตลาดกลับมากังวลเกี่ยวกับการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมสัปดาห์หน้า ทำให้อาจจะมีแรงขายลดความเสี่ยงออกมาในสัปดาห์นี้

 

ประเด็นสำคัญ

- Thailand: Opportunity Day: SAWAD NER RT MC PORT AMATAV SHR / เงินเฟ้อเดือน พ.ย. คาด +5.89% YoY (Vs เดือน ต.ค. +5.98% YoY) Core Inflation Rate เดือน พ.ย. +3% YoY (Vs เดือน ต.ค. +3.17% YoY)

- Australia: ผลประชุมธนาคารกลาง คาดมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 3.1%

- US: ดุลการค้าเดือน ต.ค. คาดขาดดุล -USD73bn. (Vs เดือน ก.ย. -USD73.3bn.)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยกลับมาปิดลบ: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงต่ำสุดในชั่วโมงแรกของการซื้อขายที่ 1,639.13 จุด ก่อนเคลื่อนไหวออกด้านข้างกรอบ 1,640-1,644 จุด ตลอดการซื้อขาย ก่อนปิดตลาดที่ 1,641.63 จุด -6.81 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.37 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ -1.84% วัสดุก่อสร้าง -0.98% พาณิชย์ -0.79% พลังงานและสาธารณูปโภค -0.64% หุ้นบวก >4% THCOM NCAP JWD PRI RBF MORE YGG A5 MICRO หุ้นลบ >4% DEMCO TC JTS AH SMT

 

 

+/- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลบส่วนหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน: DJIA -1.40% S&P500 -1.79% NASDAQ -1.93% หลังสหรัฐฯ เผย ISM PMI ภาคบริการขยายตัวมากกว่าในเดือน พ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจเป็นแรงผลักดันให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นระยะเวลาที่นานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นเทสลา หลังบริษัทเปิดเผยแผนปรับลดการผลิตในประเทศจีน ส่วนหุ้นยุโรป CAC40 -0.67% DAX -0.56% FTSE +0.15% โดยถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจาก PMI ภาคบริการเดือน พ.ย. ของยูโรโซนลดลง แต่ความหวังเกี่ยวกับการผ่อนคลายมาตรการควบคุม COVID-19 ในจีนได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และหุ้นของธุรกิจที่พึ่งพาตลาดจีนหนุนตลาดยุโรปบางตลาดลดช่วงลบลง

- น้ำมันดิบและทองคำปิดลบ: WTI -USD3.05 ปิดที่ USD76.93/บาร์เรล Brent -USD2.89 ปิดที่ USD82.68/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าดัชนี PMI ภาคบริการที่ขยายตัวสูงกว่าคาด อาจส่งผลให้เฟดยังคงเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเชิงรุก ส่วนทองคำ -USD28.30 ปิดที่ USD1,781.30/ออนซ์ ถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการพุ่งขึ้นของ US Bond Yields รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป

 

ประเด็นสำคัญ

- US: ISM เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคบริการของสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 56.5 ในเดือนพ.ย. จาก 54.4 ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2020 นอกจากนั้น ยังสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 53.1 โดยได้รับแรงหนุนจากกิจกรรมทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น

+ China: ทางการเซี่ยงไฮ้จะยกเลิกข้อกำหนดในการตรวจ COVID-19 ไม่ต้องแสดงผลตรวจ COVID-19 ที่เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงอีกต่อไปในการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และเพื่อเข้าสถานที่กลางแจ้งต่าง ๆ อาทิ สวนสาธารณะและจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ตั้งแต่วันที่ 5 ธ.ค. เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 เป็นศูนย์ล่าสุด หลังจากที่มีการประท้วงทั่วประเทศครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี เพื่อต่อต้านมาตรการที่เข้มงวดของรัฐบาลจีน สำหรับเมืองอื่น ๆ อาทิ ปักกิ่ง, เทียนจิน, เซินเจิ้น และเฉิงตู ก็ได้ประกาศยกเลิกข้อกำหนดในการตรวจ COVID-19 ก่อนใช้ระบบขนส่งสาธารณะตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา

+ OPEC+: OPEC+ บรรลุข้อตกลงที่จะเดินหน้าลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง 2 ล้านบาร์เรล/วัน ไปจนถึงสิ้นปี 2023 หรือคิดเป็น 2% ของอุปสงค์โลก ตามแผนการเดิมในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. ผ่านมา

+ Thailand: ธปท. ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน พ.ย. 2022 ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 49.4 ตาม การปรับเพิ่มขึ้นในทุกองค์ประกอบ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคที่มิใช่การผลิตในเกือบทุกหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะกลุ่มโรงแรมและร้านอาหาร กลุ่มค้าปลีก รวมถึงกลุ่มโลจิสติกส์ที่ความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการปรับเพิ่มขึ้นมาก

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CPN CPALL MINT

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: CPN AAV SNNP

Derivatives: เปิด Short S50Z22 เก็งกำไร