กลยุทธ์การลงทุน หุ้นแนะนำ ธ.ค. 2565 - สะสมหุ้นสำหรับภาพปี 2566 ซึ่งยังเป็นบวก

กลยุทธ์การลงทุน หุ้นแนะนำ ธ.ค. 2565 - สะสมหุ้นสำหรับภาพปี 2566 ซึ่งยังเป็นบวก

พอร์ตหุ้นแนะนำ พ.ย. ปรับขึ้น 0.8% น้อยกว่าผลตอบแทนของตลาดเล็กน้อย

ในเดือนพฤศจิกายน ตลาดหุ้นไทยผันผวนค่อนข้างหนัก แต่ราคาปิดแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อสิ้นเดือนตุลาคม โดยปัจจัยบวกได้แก่ i) เงินเฟ้อของสหรัฐ และไทยชะลอตัวลง ii) ภาวะเศรษฐกิจและการเมืองในยุโรปและอังกฤษเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น และ iii) GDP ของไทยออกมาแข็งแกร่งเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนี SET ยังผันผวนหนักเนื่องจากมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ อย่างเช่น สถานการณ์ COVID-19 ที่รุนแรงมากขึ้นในประเทศจีน และมีสัญญาณว่าทางการจีนอาจจะกลับมาใช้มาตรการ
ควบคุมทางสังคมที่เข้มงวดขึ้นอีกครั้ง ทำให้นักลงทุนเป็นกังวลเกี่ยวกับโมเมนตัมของนักท่องเที่ยวจากจีน นอกจากนี้ ผลประกอบการ 3Q65 ของกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีที่อ่อนแอเกินคาดยังทำให้มีการปรับลดประมาณการ EPS ของบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 2565 ลงอีก ทั้งนี้ พอร์ตหุ้นของเราในเดือนพฤศจิกายนขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย 0.8% ซึ่งยัง underperform ดัชนี SET ที่ขยับขึ้นมา 1.2% โดย CPALL* เป็นหุ้นเด่นเพียงตัวเดียวของเราที่ขยับขึ้นได้ดีถึง 6.3% ซึ่งเป็นผลสะท้อนจากภาคการท่องเที่ยวที่แข็งแกร่ง และโมเมนตัมของกำไรใน 4Q65 แต่เมื่อพิจารณาจากต้นปีมาจนถึงวันนี้ พอร์ตหุ้นของเราขยับขึ้นมา 4.4% ซึ่งยัง outperform ดัชนี SET ที่ลดลง 1.79%

 

 

มุมมองเดือน ธ.ค. ตลาดน่าจะปรับขึ้น โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของเดือน

สำหรับแนวโน้มในเดือนธันวาคม เรามองแนวโน้มดัชนี SET เป็นบวกในระดับปานกลาง โดยคาดว่า ตลาดจะยังเคลื่อนไหวในช่วงแคบ ๆ ในสองสัปดาห์แรกของเดือน เพราะนักลงทุนน่าจะยังรอดูสถานการณ์ COVID-19 ในจีน และการตัดสินนโยบายการเงินของ FOMC ในวันที่ 14 ธันวาคม และ ECB ในวันที่ 15 ธันวาคม ซึ่งเรามองว่าหลังจากเห็นความชัดเจนมากขึ้นจากประเด็นดังกล่าวข้างต้นแล้ว หุ้นไทยน่าจะขึ้นต่อได้ในช่วงปลายปี ถ้าหาก Fed และ ECB ส่งสัญญาณว่าอาจจะชะลอจังหวะการขึ้นดอกเบี้ย ดัชนี US dollar index น่าจะลดลงต่อ ซึ่งจะหนุน risk appetite ในตลาดหุ้นเอเชีย ทั้งนี้ เราคาดว่าจะยังมีกระแสเงินทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่องในปี 2566 เนื่องจาก i) GDP มีแนวโน้มจะ outperform ii) จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะหนุนให้ดุลบัญชีเดินสะพัดดีขึ้น และ iii) วัฏจักรค่าเงินดอลลาร์ฯ ที่กำลังผ่านช่วงสูงสุดจะหนุนให้ค่าเงินเอเชียแข็งค่าขึ้น

หุ้นเด่นเดือน ธ.ค. ยังคงเน้นหุ้นในธีมเด่นสำหรับไตรมาส 1/2566 เป็ นสำคัญ

เราแนะนำให้นักลงทุนเน้นความสนใจไปที่แนวโน้มในระยะกลางถึงยาว ซึ่งเศรษฐกิจไทย และดัชนี SET จะได้แรงหนุนจากการบริโภคภาคเอกชนที่แข็งแกร่ง และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ดังนั้นหุ้นเด่นของเราในเดือนธันวาคมจึงยังคงอิงกับธีมดังกล่าว ซึ่งได้แก่ กลุ่มธนาคาร (BBL*, KTB*), ผู้บริโภค (CPALL*, HMPRO*) และกลุ่มที่จะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (AOT*, BDMS*) นอกจากนี้ เรายังเพิ่มหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคเข้ามาอีกสองตัวในเดือนนี้ คือ GULF* และ BGRIM* เพราะคาดว่าจะได้อานิสงส์จากการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรในตลาดโลกลดลงอย่างต่อเนื่อง และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น