กนง.และถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้ จะเป็นปัจจัยกำหนดโทนการลงทุน

กนง.และถ้อยแถลงประธานเฟดคืนนี้ จะเป็นปัจจัยกำหนดโทนการลงทุน

การเก็บภาษีซื้อขายหุ้นเป็นความเสี่ยงระยะกลาง แต่กระทบระยะสั้นจำกัด ครม.อนุมัติในหลักการเก็บภาษีธุรกรรมในการขายหุ้น สิ่งที่นักลงทุนควรทราบและมุมมองของเราเป็นดังนี้

1) เป็นลักษณะ Financial Transaction Tax ซึ่งจะจัดเก็บในลักษณะภาษีธุรกิจเฉพาะ 0.10% (รวมภาษีท้องถิ่นเป็น 0.11%) แต่ในปีแรกจะเก็บในอัตราเพียงครึ่งเดียวเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อนักลงทุน 

2) ขั้นตอนต่อไปคือผ่านกฤษฎีกา ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร 

3) เริ่มใช้จริงหลังกฎหมายประกาศ 90 วัน 

4) ไม่มีการยกเว้นขั้นต่ำ บังคับใช้กับนักลงทุนทุกกลุ่ม ยกเว้นกองทุนบำนาญ และผู้สร้างสภาพคล่องการซื้อขาย (Market maker) 

5) ยังมีมีรายละเอียดผลกระทบกับผลิตภัณฑ์อย่าง DW, Block trade และใช้กับหุ้นไทย ยังไม่รวมถึงการลงทุนหุ้นต่างประเทศ 

6) การเก็บภาษีดังกล่าว จะทำให้ต้นทุนในการทำธุรกรรมของนักลงทุนเพิ่มขึ้น และคิดเป็นต้นทุนที่สูง เมื่อเทียบกับค่าธรรมเนียมการซื้อขายเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 0.08% (นักลทุนรายใหญ่ 0.02-0.05% / รายย่อย 0.15-0.25%) 

7) เป็นความเสี่ยงระยะกลางต่อปริมาณการซื้อขายที่อาจจะชะลอตัวลง ขณะที่ในระยะสั้นคาดผลต่อตลาดจำกัดหลังตอบรับเรื่องนี้ไปหลายครั้ง
 

ประเด็นติดตามที่สำคัญ

1) การประชุม กนง. 30 พ.ย. คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็นบวกกับธนาคาร แต่คาดกลุ่มการเงินที่ราคาปรับลดลงมาหนักแล้ว มีโอกาสฟื้นตัวเช่นกัน

2) การแถลงของประธานเฟด เจอโรมพาวเวล มีโอกาสสร้างความผันผวนต่อตลาด แต่ด้วยเพดานของการขึ้นดอกเบี้ยที่เริ่มจำกัด ซึ่งจะทำให้การขึ้นดอกเบี้ยจากนี้ต้องชะลอลงโดยธรรมชาติ จะเป็นปัจจัยจำกัดความเสี่ยงของการลงอย่างรุนแรง

3) น้ำมันดิบ ติดตามการประชุมโอเปค 4 ธ.ค. และการเริ่มมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัสเซีย 5 ธ.ค.

4) ไฟฟ้าพลังงานทดแทน กกพ.ขยายเวลายื่นเสนอโครงการไปถึง 30 พ.ย. (จากเดิม 25 พ.ย.) และเลื่อนวันประกาศผู้ป่านคุณสมบัติเป็น 9 ธ.ค. (จาก 2 ธ.ค.)

 


 

ประเด็นลงทุนที่น่าสนใจ

1) ฟื้นตัวจากเศรษฐกิจและเปิดเมือง BBL, SCB, MINT, SPA, VRANDA, TNR, KISS, CPN, CRC, CPALL, MAKRO, MAJOR  

2) การขายไฟพลังงานมทดแทน 5200MW GULF, GUNKUL, BCPG, SSP

3) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรผ่านจุดสูงสุด ADVANC, EGCO, RATCH

4) อสังหาริมทรัพย์ SPALI, AP, LH, ASW 5) หุ้นเข้า MSCI (มีผล 30 พ.ย.) BAM, ERW, JWD, NEX, RAM และหุ้นเข้า FTSE (มีผล 16 ธ.ค.) ได้แก่ TLI และ PLUS 6) มีโอกาสเข้า SET50 ได้แก่ DELTA, RATCH, COM7 / มีโอกาสหลุด SET50 ได้แก่ SAWAD, BLA, KCE 7)

หุ้นที่น่าสนใจอื่นๆ: STP, TNR, DMT, TVDH, KLINIQ

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัว 1,614-1,635 กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ เน้นกลุ่มหุ้นเปิดเมือง และบริโภคในประเทศที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจ กลุ่มที่ระยะสั้นมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้นคือ

1) ไฟฟ้าและพลังงานทดแทนประกาศผู้ผ่านคุณสมบัติ 9 ธ.ค.

2) กลุ่มธนาคาร จากคาดการณ์กนง. อาจขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 30 พ.ย.

3) กลุ่มที่ยัง Laggard ในช่วงที่ผ่านมา //หุ้นแนะนำ: MINT*, TNR*, STP*, KLINIQ*

แนวรับ: 1,605-1,614 / แนวต้าน : 1,628-1,635 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%

 


 

ประเด็นการลงทุน

ราคาบ้านสหรัฐชะลอตัวในเดือนก.ย. – ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.6% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี แต่ต่ำกว่าระดับ 12.9% ในเดือนส.ค.

Conference Board เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลง 2 เดือนติด - ร่วงลงสู่ระดับ 100.2 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน แต่สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ จากระดับ 102.2 ในเดือนต.ค

คาดโอเปคพลัสหั่นกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมอาทิตย์นี้ - แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และพันธมิตร (โอเปคพลัส) จะมีมติปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันสำหรับเดือนธ.ค.ในการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 4 ธ.ค. อันเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ลดลงในจีน

รัสเซียประกาศยกเลิกเจรจาข้อตกลงอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐ - นายเซอร์เก ยาบคอฟ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียตัดสินใจยกเลิกการเจรจาข้อตกลงควบคุมอาวุธนิวเคลียร์ "New START" กับทางสหรัฐ ซึ่งมีกำหนดเจรจาที่กรุงไคโร

EU ไม่สามารถบรรลุฉันทามติกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย - เนื่องจากสมาชิก EU ยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว

หนี้สาธารณะคงค้างของไทยสิ้นปีงบ 65 อยู่ที่ 60.41% ของ GDP – หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 ก.ย. 65 มีจำนวน 10.37 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 60.41% GDP ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้ในประเทศ 98.29%

ครม. อนุมัติ AOT พัฒนาสนามบินดอนเมือง ระยะที่ 3 กว่า 3 หมื่นลบ. - เพื่อขยายขีดความสามารถในการรองรับปริมาณผู้โดยสาร พัฒนาคุณภาพการบริการ ปัจจุบันมีอาคารผู้โดยสาร 2 อาคาร และมีขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารรวม 30 ล้านคนต่อปี

Opportunity Day – 30 พ.ย. – HL, NCH, BYD, BGRIM, SGP, SAT, PDJ / 1 ธ.ค. LOXLEY, CPANEL, TTW, DEMCO, HARN, AIT, BCP / 2 ธ.ค. - SENAJ, MEGA, APCO, DITTO, BAFS, SCN, DUSIT / 6 พ.ย. – SAWAD, NER, RT, MC, PORT, AMATAV, SHR

 

ประเด็นติดตาม: 30 พ.ย. – TH Interest Rate Decision, Fed Chair Powell Speaks, EU CPI, US GDP Q3, JOLTs Job Openings, US Pending Home Sales, US Crude Oil Inventories / 1 ธ.ค. – US Core PCE Price Index, ISM Manufacturing PMI / 2 ธ.ค. – Nonfarm Payrolls, Unemployment Rate

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)