CPF ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือจะพุ่งสูงขึ้น

CPF ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือจะพุ่งสูงขึ้น

ราคาหมูจะยังคงแข็งแกร่งในปี 2566F แต่จะลดลงในปี 2567F

เราคาดว่าราคาเนื้อสัตว์จะยังคงสูงกว่าปกติในปีหน้า โดยเฉพาะราคาหมูทั้งในประเทศไทย และในต่างประเทศ เนื่องจากการระบาดของโรค ASF ทำให้ผลผลิตหมูขาดแคลน ทั้งนี้ เราได้ปรับเพิ่มสมมติฐานราคาหมูในประเทศไทย เวียดนาม และจีนในปี 2566F ขึ้นอีก 8-14% (Figure 2) นอกจากนี้ CPF ยังมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตหมูในประเทศดังกล่าวขึ้นอีกมากกว่า 10% ในปีหน้า ซึ่งเราคาดว่าเกินพอที่จะชดเชยผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยคาดว่ารายได้ของ CPF ที่จะโตในระดับเลขหลักเดียวต่ำ ๆ ในปี 2566-2567F

CPF ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือจะพุ่งสูงขึ้น

ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือจะเป็นตัวหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโต

เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจาก JV และบริษัทในเครือจะโตถึง 308% เป็น 1.24 หมื่นล้านบาทในปี 2566F จากการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของทั้งธุรกิจการเกษตร และค้าปลีก ทั้งนี้ เนื่องจากราคาหมูในประเทศจีนขยับสูงขึ้น เราจึงคาดว่า CTI จะพลิกเป็นกำไร 5.3 พันล้านบาทในปีหน้า จากที่คาดว่าจะมีผลขาดทุน 500 ล้านบาทในปี 2565F นอกจากนี้ การบริหารต้นทุนได้ดีน่าจะทำให้ผลการดำเนินงานของ Bellisio (ธุรกิจหมูของ CPF ในแคนาดา) ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่จากที่คาดว่าจะขาดทุนอย่างหนักในปีนี้ ในขณะเดียวกัน เราคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจค้าปลีกน่าจะฟื้นตัวขึ้นจากการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีก
ค รั้ง ซึ่งโมเมนตัมด้านบวกน่าจะดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในปี 2567F

 

 

 

ปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2565F ขึ้นอีก 2% และปี 2566F ขึ้นอีก 23%

เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปปี 2565F ขึ้นอีก 2% เป็น 1.59 หมื่นล้านบาท เพื่อสะท้อนถึงผลประกอบการที่ออกมาดีเกินคาดในปี 9M65 จากรายได้ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง (+20% YoY) และ GPM ที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก (+130bps YoY) สำหรับปี 2566F เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิขึ้นอีก 23% เป็น 1.97 หมื่นล้านบาท เนื่องจากเราปรับเพิ่มประมาณการส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือขึ้นอีก 14% นอกจากนี้ สมมติฐานราคาหมูที่สูงขึ้นยังทำให้เราปรับเพิ่มประมาณการรายได้ขึ้นอีก 5%, ปรับเพิ่มสมมติฐาน GPM ขึ้นอีก 50bps และปรับลดประมาณการผลขาดทุนจากสินทรัพย์ชีวภาพลง 50% ซึ่งการ
ปรับเพิ่มประมาณการดังกล่าวเกินพอที่จะชดเชยค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 19% ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิในปี 2567F จะอยู่ที่ 1.80 หมื่นล้านบาท (-9% YoY) เพราะคาดว่าราคาเนื้อสัตว์จะกลับมาอยู่ระดับปกติในปี 2567F เนื่องจากคาดว่าผลผลิตเนื้อสัตว์จะเพิ่มขึ้น

 

Valuation & action

เรายังคงคำแนะนำซื้อ CPF แต่ปรับลดราคาเป้าหมาย SoTP ปี 2566 ลงเล็กน้อยเหลือ 31.25 บาท จากเดิมที่ 31.75 บาท เพื่อสะท้อนถึงความคาดหมายว่าราคาเนื้อสัตว์จะลดลงในปี 2567F เราเชื่อว่าราคาหุ้นที่ลดลงในช่วงนี้สะท้อนความกังวลเกี่ยวกับราคาเนื้อสัตว์ในระยะยาว และอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไปแล้ว ทั้งนี้ ราคาหุ้น CPF ในปัจจุบันคิดเป็น PER ที่ต่ำเพียง 9.8x (-1.5 S.D.)

 

Risks

ต้นทุนอาหารสัตว์แพง, เศรษฐกิจโลกถดถอย, ความผันผวนของราคาเนื้อสัตว์