ตลาดเริ่มมองเฟดชะลอระดับดอกเบี้ยในการประชุมธ.ค.

ตลาดเริ่มมองเฟดชะลอระดับดอกเบี้ยในการประชุมธ.ค.

ติดตามการประชุมเฟด 2 พ.ย. และการส่งสัญญาณแนวโน้มดอกเบี้ย ตลาดคาดธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ในการประชุม 2 พ.ย. แต่เริ่มเห็นความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราการขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมธ.ค.

ซึ่งตลาดเริ่มมองดอกเบี้ยอาจขึ้นเพียง 0.50% จากสัญญาณต่างๆ อาทิ 1) การชะลอตัวของตัวเลขเศรษฐกิจที่ผ่านมา เช่น ยอดบ้านรอการขาย ก.ย. ที่ -10.2% (ชะลอลงจาก ส.ค.ที่ -2.0%) และค่าจ้าง ที่เริ่มเห็นสัญญาณชะลอ  2) การเข้าสู่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจยุโรป ในช่วงไตรมาส 3/65-1/66 3) ตัวเลข PCE Core Deflator ก.ย. ออกมาที่ 5.1% (ต่ำคาด 5.2% แต่สูงกว่า ส.ค.ที่ 4.9%) ดังนั้นโฟกัสของตลาดจะไม่ได้อยู่ที่การขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ แต่จะไปอยู่ที่การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในช่วงต่อไป ว่าจะมีโอกาสชะลอหรือหยุดขึ้นชั่วคราวหรือไม่ ซึ่งจะเป็นปัจจัยช่วยผ่อนคลายภาพการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

 

เน้นเลือกรายตัวในหุ้นที่ยังมีโมเมนตัมกำไรเชิงบวก ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ที่อาจกระทบต่อการปรับประมาณการกำไร ทำให้หุ้นในกลุ่มอิงเศรษฐกิจโลก อาจเคลื่อนไหวได้ไม่ดี และจำเป็นต้องเลือกรายตัวเฉพาะหุ้นที่ยังมีโมเมนตัมกำไรดี หรืออาจมีปัจจัยบวกเท่านั้น ขณะที่กลุ่มที่เกี่ยวกับการเปิดเมือง (ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ค้าปลีก ธนาคาร ฯลฯ) จะยังมีแนวโน้มเป็นกลุ่มหลักในการผลักดันตลาด โดยมีกลุ่มหุ้นปลอดภัยเป็นตัวช่วย หลังแรงกดดันของการเพิ่มของผลตอบแทนพันธบัตร น่าจะเริ่มเบาบางลง ซึ่งในกลุ่มนี้ จะเป็นการเลือกรายตัวในหุ้นสื่อสาร ไฟฟ้า พลังงานทดแทน ซึ่งหุ้นที่เราชอบ ได้แก่ ADVANC, EGCO, RATCH, GULF, GUNKUL, SSP, BCPG เป็นต้น
 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 3) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  4) กลุ่มไฟฟ้าแผน PDP ใหม่ ละประมูลพลังงานทดแทน 5,200MW  บวกกับ EGCO, RATCH, GULF, BCPG,  GUNKUL, SSP 5) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, SC, TH, TLI, BAM, EA, CK, MBK, SAMART, ARIN, MC, TKN, SCGP, KISS, TC, KAMART, FLOYD, PROS, TVDH 

 

ภาพรวมกลยุทธ์: ยังเป็นการเลือกเก็งกำไรรายตัว ขณะที่ภาพรวม SET Index อยู่ระหว่างสร้างฐาน เพื่อผ่านโซนแนวต้าน 1,590-1,620 จุด กลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง ระยะสั้นกลุ่มที่ลงเยอะ (อาทิ ไฟแนนซ์ อสังหาริมทรัพย์) มีโอกาสเป็นเป้าหมายเก็งกำไร ส่วนกลุ่มพลังงานสามารถเก็ง PTTEP ตามแนวรับ ส่วนหุ้นโรงกลั่นกำไรไตรมาส 3 ชะลอหนัก เก็งกำไรระมัดระวัง (ถ้าจะเลือก ชอบ SPRC) //หุ้นแนะนำ: ADVANC*, ASW*, BCPG*. TVDH*

แนวรับ: 1,592 / แนวต้าน : 1,612-1,620 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

ประเด็นการลงทุน

สหรัฐเผยดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายทรุดหนัก – pending home sales ดิ่งลง 10.2% ในเดือนก.ย. mom แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2553

สหรัฐเผยดัชนี PCE พื้นฐาน +0.5% เดือนก.ย. สอดคล้องคาดการณ์ - ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน +6.2% ในเดือนก.ย. yoy หลังจากปรับตัวขึ้น 6.2% ในเดือนส.ค. ขณะที่คาด 6.3%

โกลด์แมน แซคส์ คาดเฟดขึ้นดบ.แตะ 5% มี.ค.ปีหน้า – เพิ่มขึ้น 0.25% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เหตุผลเพราะเงินเฟ้อที่สูงจนน่ากังวล

จีนคลายกฎคุมโควิดยอมให้เฉิงตูเปิดบ้านต้อนรับนักปิงปอง 30 ประเทศ –บรรดานักเล่นปิงปองมืออาชีพหลายร้อยคนจาก 30 ประเทศได้ขึ้นเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำไปยังมหานครดังกล่าว เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเทเบิลเทนนิสชิงแชมป์โลกประจำปีนี้ โดยที่ไม่มีมาตรการกักตัวแต่อย่างใด

อินเดียขยายเวลาจำกัดส่งออกน้ำตาลจนถึงต.ค.ปีหน้า - อินเดียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่ที่สุดของโลกได้สั่งจำกัดการส่งออกน้ำตาลจนถึงสิ้นเดือนนี้ เพื่อควบคุมราคาภายในประเทศหลังจากที่การส่งออกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์

รัฐบาล แจงความสามารถชำระหนี้อยู่ในเกณฑ์ดี หนี้สาธารณะต่ำกว่าเกณฑ์ – คาดการณ์ว่าสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (Gross Domestic Product: GDP) ณ สิ้นปีงบประมาณ 2565 จะอยู่ที่ 62.69% ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้กรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่กำหนดให้สัดส่วนดังกล่าวต้องไม่เกิน 70%

ธปท.ออกประกาศห้ามแบงก์ทำธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง – หลักการสำคัญ คือ ให้บริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินยกเว้นธนาคารพาณิชย์ สามารถประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้กรอบการกำกับดูแลที่มีความยืดหยุ่น 

ปลัดคลัง ไม่สนขายหุ้นรัฐวิสาหกิจในตลาดฯ หาเงินเพิ่มทุน THAI – มั่นใจมีแหล่งทุนอื่นอีกมาก ทั้งเงินปันผล และกองทุนวายุภักษ์ มีเงินเกือบ 2 แสนล้านบาท ขณะที่คลังต้องการเงินแค่ 1 หมื่นล้านบาท กรณีต้องเพิ่มทุน อาจให้บริษัทลูกรัฐวิสาหกิจถือแทนลดสัดส่วนของรัฐ

PTTEP ลุ้นคว้าแปลงปิโตรเลียมรอบ 24 อย่างน้อย 2 แปลง – รอกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติประกาศผลกลางไตรมาส 1/66
ตลท.ให้ CMO ใช้เกณฑ์ Cash Balance – ตั้งแต่ 31 ต.ค.-18 พ.ย.65

 

ประเด็นติดตาม: 31 ต.ค. – EU CPI / 1 พ.ย. – US ISM Manufacturing PMI, US JOLTs Job Openings / 2 พ.ย. - Fed Interest Rate Decision / 3 พ.ย. – US ISM Non-Manufacturing PMI / 4 พ.ย. - Nonfarm Payrolls, US Unemployment Rate / 10 พ.ย. – US CPI

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)