ลุ้นขึ้นต่อ หุ้นรายงานพิเศษ SELIC (18 ต.ค. 2565)

ลุ้นขึ้นต่อ หุ้นรายงานพิเศษ SELIC (18 ต.ค. 2565)

วันจันทร์ที่ผ่านมา ดัชนีปรับตัวลงในภาคเช้าประมาณ -7 จุด แต่มีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่าย ทำให้ดัชนี +10 จุด จากแรงซื้อในหุ้น DELTA และกลุ่มค้าปลีก ธนาคาร นักลงทุนติดตามการรายงานผลประกอบการหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ทยอยประกาศ

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,571.40 จุด +10.62 จุด +0.68% มูลค่าการซื้อขาย 66,745 ลบ. ต่างชาติ -2,359.54 ลบ. TFEX -1,383 สัญญา ตราสารหนี้ -3,070.84 ลบ.
 

ปัจจัยบวก  

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิด พุ่งขึ้น 550.99 จุด หรือ +1.86% หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีที่มีการประกาศก่อนหน้านี้
+ สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.8% ใน 3Q65
+ คลังจ่อปรับ GDP รับนักท่องเที่ยวอุ้มเศรษฐกิจฟื้นปลายเดือนต.ค. แม้ IMF คาดเศรษฐกิจโลกปี 2566 ลดลง แต่ GDP ของไทยยังโตได้ 4% เนื่องจากใช้มาตรการการเงินช่วย
+ BOI เปิดเผยว่า สถิติคาขอรับการส่งเสริมการลงทุน 9 เดือนของปี 2565 มีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,247 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8% มูลค่ารวม 439,090 ล้านบาท
+/- รัฐบาลจีนเลื่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจทั้งหมดออกไปโดยไม่มีกำหนด จากเดิมที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้

 

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 15 เซนต์ -0.2% ปิดที่ 85.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย
- หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์รายงานโดยอ้างอิงจากข้อมูลรัฐบาลอิหร่านว่า รัฐบาลอิหร่านได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปยังรัสเซียเพื่อสรุปเงื่อนไขสำหรับการจัดส่งอาวุธเพิ่มเติม รวมถึงขีปนาวุธแบบพื้นสู่พื้นสองประเภท
 

 

- เทศบาลเมืองเจิ้งโจว ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิต iPhone ของบริษัทแอปเปิลสั่งล็อกดาวน์หนึ่งในเขตที่มีประชาชนอาศัยอยู่มากที่สุดเพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของโรคโควิด-19
- ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า สหรัฐจะทำให้รัสเซียต้องรับผิดชอบกับการก่ออาชญากรรมสงคราม หลังจากรัสเซียโจมตีกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนด้วยโดรน ส่งผลให้มีประชาชนอย่างน้อย 4 คนเสียชีวิต
- FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 94.70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. และให้น้ำหนัก 66.70% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามทิศทางตลาดต่างประเทศ โดยมีแรงหนุนจากรัฐบาลอังกฤษตัดสินใจยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีที่มีการประกาศก่อนหน้านี้ ขณะที่นักลงทุนยังติดตามผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคารที่ทยอยประกาศออกมา คาดกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,565-1,580 จุด

 

กลยุทธ์การลงทุน

• หุ้นซ่อมแซมหลังน้ำท่วม : GLOBAL DOHOME HMPRO TOA DPAINT COTTO DCC TASCO
• ศบค. มีมติยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน : ERW CENTEL VRANDA ASAP SPA
• ตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. เติบโต : BRR KSL TFG GFPT ASIAN
• หุ้นเด่น IAA : ADVANC AOT BBL KBANK

 

 

หุ้นรายงานพิเศษ

                                                                              SELIC “ซื้อ”
                                                   เติบโตจากการซื้อธุรกิจ และได้สิทธิ์ซื้อหุ้น PMCT

ลุ้นขึ้นต่อ หุ้นรายงานพิเศษ SELIC (18 ต.ค. 2565)

•รายได้ 2Q22 และ 1H22 อยู่ที่ 390.52 ลบ. +0.9% QoQ, + 0.9% YoY และ 779.06 ลบ. +4.0% YoY ตามลำดับ สาเหตุหลักมาจากรายได้ในประเทศที่เพิ่มขึ้น แต่รายได้จากต่างประเทศลดลง เนื่องจากค่าเงินอ่อนค่าทำให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้อ และรายงานกำไรสุทธิ 2Q22 และ 1H22 อยู่ที่ 10.07 ลบ. - 14.1%QoQ, -65.3% YoY และ 21.78 ลบ. -63.1% YoY ปรับตัวลง เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นจากค่าที่ปรึกษาทางการเงินในการเข้าซื้อธุรกิจผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์ รวมถึงการนำบริษัทย่อย PMCT เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

•แนวโน้ม 2H22 กลับมาเติบโตจากการรับรู้รายได้ของบริษัทเทวกรรมโอสถ (SELIC ถือหุ้น 50%) ดำเนินธุรกิจผลิต “น้ำมันมวย” ตั้งแต่ 4Q65 และเริ่มรับรู้รายได้จากบริษัท DVK Healthcare (เทวกรรมถือหุ้น 100% และ SELIC ถือหุ้นทางอ้อม 50%) ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่าย “NEOPLAST และ NEOBUN” ใน 1Q66 โดยคาดว่าการเติบโตของกลุ่ม Consumer Healthcare อยู่ที่ 10%-12% ต่อปีซึ่งสูงกว่าธุรกิจกาวที่คาดว่าจะเติบโตราว 5%ต่อปี

ความเห็น คาดการณ์รายได้ 3Q65 จะทรงตัวแต่ 4Q65 จะเริ่มเติบโตเนื่องจากรับรู้รายได้จาก เทวกรรมโอสถ ขณะที่ DVK Healthcare คาดว่าจะรับรู้รายได้ 1Q66 เนื่องจากอยู่ระหว่างขอจดทะเบียนใหม่จากทางอย.โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จ 1Q66 อย่างไรก็ดีบริษัทคาดว่า เทวกรรมโอสถและ DVK Healthcare จะมี Synergy ในการจัดซื้อวัตถุดิบ นอกจากนี้ผู้ถือหุ้น SELIC จะได้สิทธิซื้อหุ้น PMCT ที่กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เราจึงแนะนำ “ซื้อ”

 

หุ้นมีข่าว

(+) GFPT ( Bloomberg Consensus 19.00 บาท) รับซาอุดีอาระเบียขยายไลน์นำเข้าไก่ไทยมาสู่แปรรูป ปรุงสุก ส่งผลดีต่อบริษัท ชูโรงเชือดไก่-ปรุงสุกกำลังผลิต 2.9 แสนตัวต่อวันเสร็จกลางปี 2566 รองรับดีมานด์ได้มาก ทั้งจีน ซาอุดีอาระเบีย สหภาพยุโรปและอังกฤษ มั่นใจผลงานทั้งปี 2565 เติบโตแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+) AWC ( Bloomberg Consensus 5.85 บาท) รับอานิสงส์ท่องเที่ยวฟื้นตัวแกร่ง จัดประชุม-สัมมนาหนุน เผยนักท่องเที่ยวจีนมียอดจองโรงแรมเพิ่มขึ้น คาดตัวเลขอัตราการเข้าพัก (OCC) ในทุกโรงแรมดีขึ้น จากปัจจุบันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 70-80% มั่นใจโค้งท้ายปีสดใส (ที่มา ทันหุ้น)

(+) EA (Bloomberg consensus 100.00 บาท) เตรียมเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้ารุ่นใหม่ เสริมแกร่งธุรกิจอีวีอัพรายได้เพิ่ม ฟากโบรกมองหนุนการเติบโตในระยะกลาง-ยาว ชูส่งมอบ EV Bus เพิ่มคาดส่งมอบ 250-500 คัน ในไตรมาส 3/2565 ดันกำไรนิวไฮ จากแบ็กล็อกกว่า 3,000 คัน คาดส่งมอบต่อเนื่องถึงไตรมาส 2/2566 แถมต้นทุนวัตถุดิบในการผลิต EV และแบตเตอรีปรับตัวลดลงดันมาร์จิ้น ขณะที่วินด์ฟาร์มเข้าไฮซีซัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) IMH (Bloomberg consensus 17.40 บาท) "IMH" สบช่อง ประกาศเดินเกมรุก "รพ. IMH ธนบุรี" ไฟเขียวเปิด 10 คลินิกเวชกรรม IMH เพิ่ม ใน Q4 นี้ รุกขยายศักยภาพกลุ่มโรงพยาบาล IMH เพื่อรองรับคนไข้ สปสช. (บัตรทอง), ประกันสังคม และคนไข้เงินสดราคาบัตรทองล้น พร้อมส่งซิกดันรายได้ไตรมาส 4/2565 ทะลุแตะ 150 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)