เลี่ยงหุ้นอิงเศรษฐกิจภายนอก มองหุ้นอิงการบริโภคภายใน

เลี่ยงหุ้นอิงเศรษฐกิจภายนอก มองหุ้นอิงการบริโภคภายใน

ความกังวลภาวะเศรษฐกิจถดถอยยังเป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญในระยะสั้น ภาพรวมการลงทุนในระยะสั้นตลาดมีแนวโน้มตอบรับ

1) ความกังวลการเกิดเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคของหลายประเทศในยุโรปที่ GDP น่าจะชะลอตัวลงไปติดลบในช่วงไตรมาส 3/65-1/66 อาทิ เยอรมัน, อิตาลี 2) การปรับลดประมาณการกำไรของบจ.ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ดำเนินมาแล้วระยะหนึ่ง และอาจแย่ลงหาก GDP ไตรมาส 3/65 ของสหรัฐฯ ติดลบเป็นไตรมาสที่ 3 โดยนักลงทุนควรติดตามเครื่องมือคาดการณ์เศรษฐกิจรายไตรมาสสหรัฐฯ ของเฟดแอตแลนต้าที่ชื่อ GDP Now ที่จะเผยคาดการณ์ล่าสุด 27 ก.ย.นี้ 3) ความกังวลปัจจัยข้างต้น รวมถึงเศรษฐกิจจีนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการ Zero covid ทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงแรงราว 5% โดย WTI ปิดที่ 79 เหรียญ/บาร์เรล และ Brent ปิดที่ 86 เหรียญ/บาร์เรล

 

คาดกนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% แม้จะมีมีแรงกดดันจากนักเศรษฐศาสตร์และหลายภาคส่วนให้กนง.เร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพื่อลดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐฯ และไทย อย่างไรก็ตามนับจากต้นปีการอ่อนค่าของสกุลเงินประเทศอาเซียนโดยรวมถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าประเทศจำนวนมาก ขณะที่ผลกระทบต่อเงินทุนไหลออกของไทยมีน้อยมาก ถึงแม้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจาก 33 เป็น 37.5 บาท/เหรียญสหรัฐฯ แต่ตลาดหุ้นยังเห็นเงินทุนไหลเข้าเป็นบวกที่ 1.6 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดตราสารหนี้เงินทุนไหลเข้าเป็นบวกราว 1.4 แสนล้านบาท ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เราประเมิน กนง.อาจจะยังไม่ให้ความสำคัญกับส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย และน่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเพียง 0.25% 

 

 

เรามองต้นสัปดาห์ กลุ่มธนาคารอาจถูกหยิบมาเก็งกำไรก่อนการประชุม กนง.

 

ประเด็นเก็งกำไรอื่น 1) กลุ่มท่องเที่ยว AOT, CENTEL, ERW, MINT, BAFS, AAV, SHR, VRANDA, SPA 2) กลุ่มเปิดเมือง CPALL, MAKRO, MAJOR, MBK 3) มาตรการสนับสนุน EV ได้แก่ EA, GPSC, PIMO  4) หุ้นได้ประโยชน์จากการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน BABA80, TENCENT80, CHINA, STAR5001 5) กลุ่มไฟฟ้าแผน PDP ใหม่ บวกกับ EGCO, RATCH, GULF, GUNKUL, SSP 6) เก็งกำไรทางเทคนิค CRC, RATCH, RS, SC, TH, TLI, BAM, EA, BAFS, CK, MBK, SAMART, TPIPL, ARIN, SVT, TFG, MC, TKN, SCGP, MONO, ONEE, SKE, AU

 

ภาพรวมกลยุทธ์: แกว่งตัวลงในกรอบ 1,600-1,670 จุด อย่างไรก็ตามกลยุทธ์ในภาพใหญ่ไม่เปลี่ยน คือ รอเลือกซื้อกลุ่มหุ้นเปิดเมือง (ซื้อ: ท่องเที่ยว ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร กองรีทส์/ สะสมค้าปลีก การเงิน) ระยะสั้นกลุ่มหุ้นปลอดภัย หุ้นที่ยังขึ้นน้อย รวมถึงหุ้นขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกรายตัว มีโอกาสเคลื่อนไหวได้ดีกว่า ส่วนกลุ่มพลังงานแค่รอเก็งกำไรแนวรับ และเลี่ยงหุ้นโรงกลั่นที่กำไรไตรมาส 3 น่าจะชะลอหนัก   //หุ้นแนะนำ:  ADVANC*, VRANDA*, AAV*, LHFG*

แนวรับ: 1,611-1,623 / แนวต้าน : 1,638 จุด สัดส่วน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
 

 

 

ประเด็นการลงทุน

ดัชนี PMI รวมภาคผลิต-บริการสหรัฐหดตัวเป็นเดือนที่ 3 - ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 49.3 ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 44.6 ในเดือนส.ค. ดัชนี PMI ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าภาคธุรกิจของสหรัฐอยู่ในภาวะหดตัว โดยหดตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

สิงคโปร์แซงฮ่องกงเป็นฮับการเงินอันดับ 1 ของเอเชีย-อันดับ 3 ของโลก - Global Financial Centres Index (GFCI) จัดอันดับให้มหานครนิวยอร์กของสหรัฐเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับ 1 ของโลก รองลงมาได้แก่กรุงลอนดอนของอังกฤษอยู่ที่อันดับ 2 ส่วนสิงคโปร์ขยับขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 3 และฮ่องกงหล่นลงไปอยู่ที่อันดับ 4 ของโลก จากการควบคุมโควิด-19 และปัญหาการย้ายถิ่นฐานของบุคลากรที่มีทักษะสูง 

IEA เผยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าจ่อแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ใน 2565 – สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มีแนวโน้มพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ แต่ยังคงต้องอาศัยความพยายามจากภาคส่วนอื่น ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593

บอรด์ EV เร่งกระตุ้นระบบโครงสร้างพื้นฐานรองรับยานยนต์ไฟฟ้า - พร้อมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบในมาตรการต่างๆ เร่งกระตุ้นและประชาสัมพันธ์ในรายละเอียดการสนับสนุนมาตรการแก่ประชาชนภายในเดือนต.ค. 

ศบค.เผยนทท.ต่างชาติเข้าไทยแล้ว 5.3 ล้านคน - นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-21 ก.ย.อยู่ที่ 5,257,196 คน

ยกเลิกพ.ร.ก. ฉุกเฉินและยุบศบค. มีผล 1 ต.ค. – ช่วยปลดล็อคเงื่อนไขกองทุนต่างประเทศบางกองทุนรวมถึงเงื่อนไขของบริษัทประกัน 

ผู้ถือหุ้น JAS โหวตเอกฉันท์ 97% ขายหุ้น 3BB พ่วง JASIF ให้ ADVANC – ขณะที่รอลุ้นผู้ถือหน่วย JASIF ประชุม 18 ต.ค. อนุมัติแก้สัญญาตาม ADVANC

บอร์ดกสทช. นัด 12 ต.ค.พิจารณาดีลควบรวม TRUE-DTAC - คณะกรรมการกสทช.ได้กำหนดไว้ในวาระการประชุมปกติเพื่อตัดสินใจเรื่องควบรวมในวันที่ 12 ต.ค. นี้ และคาดว่าอาจจะมีการแถลงข่าวทันทีโดยประธานกสทช. 

ตลท.ให้ CHIC,SENAJ, SENAJ-W1 ใช้เกณฑ์ Cash Balance – 26 ก.ย.-12 ต.ค.65

Opportunity day – 27 ก.ย. - PSTC, TPS, CPANEL, STI, TFG, GPI, UBIS / 28 ก.ย. TGE, SE, TPCH, SKE, SALEE, MST, MVP/29 ก.ย. AMR, SECURE, JASIF, STP, SVT   

 

ประเด็นติดตาม: 27 ก.ย. - US New Home Sales, CB Consumer Confidence / 28 ก.ย. - TH Interest Rate Decision, US Pending Home Sales / 29 ก.ย. – US GDP 2Q22 / 30 ก.ย. – EU CPI, US Core PCE Price Index

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)