ดัชนีหุ้นฟิวเจอร์สสหรัฐ ปรับตัวสูงขึ้นในคืนวันจันทร์

ซีเอ็นบีซี รายงานว่า ตลาดหุ้นซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐในคืนวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่า  ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส Dow Jones Average futures ปรับตัวสูงขึ้น 106 จุด หรือ 0.2% ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq 100 futures ปรับตัวสูงขึ้น 0.2% และ 0.2% ตามลำดับ โดยตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการวันจันทร์ที่ 17 ก.พ. เนื่องในวันประธานาธิบดี (Washington's Birthday)

ดัชนีหลักสัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือฟิวเจอร์สของวอลล์สตรีทปรับตัวขึ้นต่อจากสัปดาห์ก่อน โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 0.6% ในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปรับตัวสูงขึ้น 1.5% และดัชนี Nasdaq Composite ปรับตัวสูงขึ้น 2.6%

การปรับตัวขึ้นของสัปดาห์ที่แล้วส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากแผนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเก็บภาษีศุลกากรแบบตอบโต้กับประเทศที่เรียกเก็บภาษีสินค้าสหรัฐ ทำให้บรรดานักลงทุนที่กังวลว่ามาตรการดังกล่าวจะเข้มงวดยิ่งขึ้น รู้สึกผ่อนคลายลง นักลงทุนมองว่า เป็นกลยุทธ์การเจรจาของทรัมป์ และวางใจที่ยังไม่มีผลบังคับใช้ในทันที

ตลาดหุ้นมีความผันผวนในช่วงต้นปี แต่ถึงแม้จะมีข้อกังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการค้าและเงินเฟ้อ เมื่อดูจากดัชนีหลักจะเห็นได้ว่าหุ้นเหล่านี้ไม่ได้อยู่ไกลจากจุดสูงสุดล่าสุดมากนัก เนื่องจากนักลงทุนมองหาปัจจัยกระตุ้นสำหรับการขยับขึ้นในครั้งต่อไป

ดัชนี Dow และ Nasdaq  ย่อลงประมาณ 1% จากสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้เมื่อเร็วๆนี้ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลงเพียง 0.2%

“ในขณะที่ความคาดหวังต่อรายได้เร่งตัวขึ้นและช่องทางการซื้อหุ้นคืนเปิดขึ้นสำหรับบริษัทส่วนใหญ่ หลักการสำคัญของการโต้แย้งว่าหุ้นเป็นขาลงกำลังพังทลายลง และมีแนวโน้มสูงขึ้นที่ดัชนี S&P 500 จะทะลุกรอบการซื้อขายที่ดำเนินมานับตั้งแต่การเลือกตั้ง” มาร์ค แฮ็คเก็ตต์ หัวหน้านักกลยุทธ์การตลาดของสถาบันการเงิน Nationwide ระบุ

ฤดูกาลรายงานผลประกอบการยังคงดำเนินต่อไปในวันอังคาร โดย Occidental Petroleum และ Arista Networks เป็นบริษัทหนึ่งในหลายบริษัทที่เตรียมรายงานผลประกอบการ