SCB - ผลประกอบการแข็งแกร่ง (24 เม.ย. 66)

SCB - ผลประกอบการแข็งแกร่ง (24 เม.ย. 66)

กำไรของ SCB เพิ่มขึ้นแรงทั้ง qoq และ yoy แต่ยังต่ำกว่าที่เราคาดไว้เพราะ ECL เพิ่มขึ้นใน 1Q23 เนื่องจากการตั้งสำรองเผื่อสำหรับการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าบริษัทรายใหญ่แห่งหนึ่งและผลกระทบจากการโอนธุรกิจของ CardX ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

เราคาดว่ากำไรใน 2Q23 เพิ่มขึ้นต่อทั้ง qoq และ yoy เนื่องจาก ECL กลับมาอยู่ระดับปกติ  และ NIM เพิ่มขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เราคงคำแนะนำ ซื้อ SCB ประเมินราคาเป้าหมายที่ 160 บาท

 

ECL เพิ่มขึ้นจากลูกค้าบริษัทรายใหญ่แห่งหนึ่งและการโอนธุรกิจของ CardX

กำไรสุทธิของ SCB ใน 1Q23 อยู่ที่ 1.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% qoq และ 10% yoy ต่ำกว่าประมาณการของเรา 8% แต่สูงกว่า consensus 5% กำไรใน 1Q23 คิดเป็น 22% ของประมาณการกำไรปี FY23 ของเรา ทั้งนี้ กำไรที่ต่ำกว่าประมาณการเป็นเพราะ ECL สูงกว่าคาด ถึงแม้ว่าสัดส่วน NPL โดยรวมจะทรงตัว แต่ ECL เพิ่มขึ้นทั้ง qoq และ yoy เป็น 9.9 พันล้านบาท คิดเป็น credit cost ที่ 166bps เพิ่มขึ้นจาก 151bps ใน  1Q22 และ 120bps ใน 4Q22 ซึ่งสาเหตุสำคัญมาจากการตั้งสำรองเผื่อสำหรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นของบริษัทลูกค้ารายใหญ่แห่งหนึ่ง และผลกระทบจากการโอนธุรกิจของ CardX ซึ่งเป็นรายการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว  ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการดังกล่าว Credit cost จะอยู่ที่ประมาณ 150bps อย่างไรก็ตาม credit cost น่าจะขยับกลับเข้ามาในแนวโน้มปกติได้ใน 2H23

 

 

 

NIM น่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ Q2 และอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจขึ้นไปจนถึง 2.5%

ถึงแม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานของธุรกิจหลักจะเป็นไปตามประมาณการของเรา แต่นั่นเป็นเพราะ NII ที่ต่ำกว่าคาดถูกชดเชยด้วยสัดส่วน C/I ที่ดีกว่าที่ประเมินไว้ โดย NII ลดลง 1% qoq แทนที่จะเพิ่มขึ้นได้ qoq อย่างที่เราคาดไว้ เพราะ NIM ลดลง ทั้งนี้  NIM ถือเป็นตัวจักรสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโต yoy แต่เราหวังว่า NIM จะช่วยขับเคลื่อนโมเมนตัม qoq ด้วย อย่างไรก็ตาม NIM ของ SCB ใน 1Q23 อยู่ที่ 3.46% ลดลงจาก 3.54% ใน 4Q22 ซึ่งนอกจากการที่ค่าธรรมเนียม FIDF กลับสู่ระดับปกติแล้ว ผู้บริหารยังบอกว่า NIM ถูกฉุดจากการต้นทุกการกู้ยืมระยะสั้นจากภายนอกที่สูงด้วย ทั้งนี้ SCB ยังคงเป้าหมายแบบเปิดสำหรับ NIM ปี FY23 เอาไว้ที่ >3.5% โดยคาดว่า NIM จะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ Q2 เป็นต้นไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ SCB ประเมินว่า ธปท. จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็น 2% ในการประชุมเดือนพฤษภาคม และอัตราดอกเบี้ยนโยบายสูงสุดสำหรับวัฏจักรรอบนี้จะขึ้นไปจนถึง 2.5% ภายใน 1H24 ในกรณีฐาน หรือภายใน 2H23 ในกรณีที่ดีที่สุด

 

กำไรมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่ง ในขณะที่ราคาหุ้นยังมี upside อีกมาก

เมื่อมองต่อไปข้างหน้า เราคาดว่ากำไรของ SCB จะดีขึ้นทั้ง qoq และ yoy ใน 2Q23 เนื่องจาก ECL กลับสู่ระดับปกติหลังจากที่ทำการโอนธุรกิจของ CardX เสร็จสิ้น และ NIM จะเพิ่มขึ้นหลังจากผลกระทบของการกู้ยืมระยะสั้น และการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เรายังคงคำแนะนำซื้อ SCB โดยประเมินราคาเป้าหมายที่ 160 บาท อิงจาก PB ที่ 1.1x เนื่องจากราคาหุ้นยังมี upside ในขณะที่อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลก็สูง และกำไรยังมีแนวโน้มเติบโตแข็งแกร่งอีกด้วย โดยเราคาดว่ากำไรของ SCB จะโตแรงจากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ และ NIM ที่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากที่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ย M-rate อีกทั้ง credit cost ลดลงหลังมีส่วนรองรับหนี้เสียสูงแล้ว