หุ้น Netflix ร่วง 3.2% หลังโคซีอีโอ ‘รีด แฮสติงส์’ ลงจากตำแหน่ง

หุ้น Netflix ร่วง 3.2% หลังโคซีอีโอ ‘รีด แฮสติงส์’ ลงจากตำแหน่ง

หุ้นของบริษัท เน็ตฟลิกซ์ (NFLX) ปรับตัวลดลง 10.55 ดอลลาร์ หลังจาก รีด แฮสติงส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วมของบริษัท และผู้ร่วมก่อตั้ง ประกาศลงจากตำแหน่ง ชี้ไตรมาสสี่ ยอดผู้สมัครเข้าใช้งานพุ่ง แต่รายได้ไม่เป็นไปตามคาด ส่วนรายได้ไตรมาสแรกปีนี้อาจถึง 8,170 ล้านบาท

Key Points:

  • หุ้น Netflix ร่วงลง 10.55 ดอลลาร์ หรือ 3.23% หลังรีด แฮสติงส์ (Reed Hastings) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (co-CEO) และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ประกาศลงจากตำแหน่งเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ผ่านมา 
  • Netflix ระบุว่า ยอดผู้สมัครเข้าใช้งานไตรมาสที่สี่เพิ่มสูงขึ้นถึง 7.66 ล้านราย ในขณะที่รายได้อยู่ที่  7,850 ล้านดอลลาร์ ส่วนตัวเลขกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.12 ดอลลาร์
  • บริษัท คาดการณ์รายได้ไตรมาสแรกของปี 2566 อยู่ที่ 8,170 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเริ่มผ่อนคลาย ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง

วันนี้ (20 ม.ค.66) สำนักข่าวยาฮูไฟแนนซ์ (Yahoo! Finance) รายงานว่า รีด แฮสติงส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ประกาศลงจากตำแหน่งเมื่อ วันพฤหัสบดี (19 ม.ค.66) ที่ผ่านมา หลังจากประกาศดังกล่าว หุ้น “NFLX” ของบริษัท เน็ตฟลิกซ์ ปรับตัวลดลงแรง 10.55 ดอลลาร์ หรือ 3.23% (ข้อมูล ณ วันที่ 20 ม.ค.66 เวลา 10.40 น.)

ทั้งนี้ เกร็ก ปีเตอร์ส (Greg Peters) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ (COO) จะเข้ามาปฏิบัติงานร่วมกับ เท็ด ซาแรนดอส (Ted Sarandos) ในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม ส่วน รีด แฮสติงส์ จะเข้ามาเป็นประธานกรรมการบริหารแทน

นอกจากนี้ ผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของเน็ตฟลิกซ์เติบโตในบางเซคชันเท่านั้น โดยตัวเลขผู้สมัครเข้าใช้งาน (Subscribers) พุ่งสูงถึง 7.66 ล้านราย ในขณะที่คาดการณ์ไว้เพียง 4.5 ล้านราย ทว่ารายได้ (Revenues) ของไตรมาสดังกล่าวอยู่ที่ 7,850 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่คาดการณ์ไว้อยู่ที่ 7,860 ล้านดอลลาร์ ส่วนตัวเลขกำไรต่อหุ้น (ESP) อยู่ที่ 0.12 ดอลลาร์ ในขณะที่คาดการณ์ว่าอยู่ที่ 0.58 ดอลลาร์

การเพิ่มขึ้นของยอดผู้สมัครเข้าใช้บริการที่สูงกว่าคาดการณ์อย่างมีนัยสำคัญส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการริเริ่มนโยบายใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบผู้ที่ใช้บัญชีของเน็ตฟลิกซ์ร่วมกัน (Sharing Accounts) และการสมัครสมาชิกแบบมีโฆษณาแต่มีค่าสมัครสมาชิกที่ต่ำกว่าราคาปกติ รวมทั้งซีรีส์ชื่อดังที่ปล่อยมาใหม่จำนวนหนึ่งก็มีผลทำให้จำนวนผู้สมัครเข้ารับบริการมีมากขึ้นด้วย

เน็ตฟลิกซ์คาดการณ์รายได้ไตรมาสแรกของปี 2566 อยู่ที่ 8,170 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเริ่มผ่อนคลาย ท่ามกลางค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ทว่าบริษัท ไม่ระบุถึงการคาดการณ์ตัวเลขผู้ใช้งานในอนาคตเนื่องจาก “รายได้เป็นตัวชี้วัดหลักของเน็ตฟลิกซ์”

เน็ตฟลิกซ์ระบุเพิ่มเติมว่าไตรมาสแรกของปีนี้กําไรต่อหุ้นจะอยู่ที่ 2.82 ดอลลาร์ ด้วยกระแสเงินสดหมุนเวียนในปีนี้อย่างน้อย 3,000 ล้านบาท

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หุ้นของเน็ตฟลิกซ์ขยับตัวขึ้นกว่า 60% ในรอบ 6 เดือน และในเดือนม.ค. เพียงเดือนเดียวปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 10% ที่สำคัญหุ้นเน็ตฟลิกซ์ทำผลงานได้ดีกว่าดัชนีแนสแด็กของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเพียง 5% เท่านั้น

“ปีที่ผ่านมา เป็นปีที่ยากลำบากของเน็ตฟลิกซ์ แต่ท้ายปีเราก็ยังได้เห็นภาพที่สดใส ทั้งนี้ เน็ตฟลิกซ์ยืนยันว่าเรามีเส้นทางการเติบโตและฟื้นฟูที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการทำ Paid sharing หรือการลดราคาค่าบริการเพื่อแลกกับการขายโฆษณา” เน็ตฟลิกซ์ระบุในจดหมายถึงผู้ถือหุ้น และทิ้งท้ายในจดหมายว่า “และก็เหมือนเช่นเคย ผู้ใช้บริการของเรายังคงมั่นใจและเชื่อมั่น ดาวเหนืออย่างเรา และเราจะสร้างผลกำไรที่มากขึ้นต่อไปในอนาคต”

ด้าน นักวิเคราะห์เตือนนักลงทุนว่า นโยบายการนำโฆษณามาใส่ในแพลตฟอร์มอาจต้องใช้เวลาเพื่อให้ผู้ใช้บริการคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ที่เพิ่งจะนำมาใช้เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

ระบบสมาชิกของเน็ตฟลิกซ์ปัจจุบันประกอบด้วย

1. Basic with Ads ราคา 6.99 ดอลลาร์/เดือน  (ประมาณ 230.04 บาท)

2. The Basic plan ราคา 9.99 ดอลลาร์/เดือน ( ประมาณ328.66 บาท)

3. The Standard plan ราคา 15.49 ดอลลาร์/เดือน (ประมาณ 509.78 บาท)

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์