'เครดิตสวิส' คาดฝรั่งเข้าหุ้นไทยทะลัก ดันดัชนีทั้งปี ทะยาน 1,870 จุด
“บล.เครดิต สวิส” ชี้ หุ้นไทยน่าสนใจลงทุน เหตุ เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวจากท่องเที่ยว หนุนฟันด์โฟลว์ซื้อสุทธิต่อเนื่อง คาดดัชนีปีนี้ พุ่งแตะ 1,870 จุด เพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน ชู “กลุ่มหุ้นแบงก์ - คอนซูเมอร์ - เฮลท์แคร์ - ตราสารหนี้”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เครดิตสวิส (ประเทศไทย) จำกัด เชื่อ ปี 2566 ถือเป็นปีแห่งการลงทุน แต่ยังเต็มไปด้วยความผันผวน
โดยเฉพาะครึ่งปีแรก ที่จะมีความผันผวนสูง จากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจในหลายประเทศจะถดถอย บวกกับการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางหลักๆ ที่ยังคงทยอยขึ้นต่อเนื่อง เพื่อสู้กับเงินเฟ้อ แต่มีมุมมองที่ดีกับตลาดหุ้นไทยจากเศรษฐกิจที่ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากภาพการท่องเที่ยวฟื้นตัว
นายวิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์ Vice President Investment Consultant บล.เครดิต สวิส (ประเทศไทย) กล่าวว่า บริษัทมีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปีนี้ เพราะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการเปิดประเทศของจีน ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยมากขึ้น
รวมทั้งประเทศไทย มีแรงกดดันจากเงินเฟ้อลดลงในปีนี้ และอัตราดอกเบี้ยไทยแม้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ แต่ไม่ได้เป็นระดับสูงมาก
ทั้งนี้แม้ปัจจุบันหุ้นไทย ราคาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ P/E สูงขึ้นปัจจุบันอยู่ระหว่าง 15-16 เท่า แต่จากปัจจัยบวกที่กล่าวมาข้างต้น ยังหนุนให้นักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนไทย เข้ามาซื้อหุ้นไทยปีนี้อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามเชื่อว่า Foreign investment จะกลับมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย ไม่ใช่การเข้ามาลงทุนในระยะสั้นๆ เพื่อหวังได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเท่านั้น แต่มองว่า จะเป็นการเข้ามาลงทุนในระยะยาวมากขึ้น จากผลของเศรษฐกิจไทยที่มีทิศทางฟื้นตัวต่อเนื่อง
ถึงแม้ช่วงฤดูกาลจ่ายเงินปันผล ที่ต่างชาติมีการนำเงินปันผลที่ได้รับออกนอกประเทศ แต่เชื่อว่าเงินจะไม่ไหลออกมากนัก จึงคาดสิ้นปีต่างชาติยังซื้อสุทธิในหุ้นไทยต่อเนื่อง
นายวิริยะชัย กล่าวว่า จากปัจจัยบวกดังกล่าวบล.เครดิตสวิส ประเมินภาพรวมตลาดหุ้นไทยปีนี้ มีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยคาดสิ้นปีดัชนีจะอยู่ที่ระดับ 1,870 จุด หรือมีอัพไซด์ จากปี 2565 ที่ระดับ 12% โดยกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีคือ กลุ่มเฮลท์แคร์ และกลุ่มคอนซูเมอร์ เพราะได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจในประเทศ และการบริโภคที่ฟื้นตัว
สำหรับโอกาสของการลงทุนปีนี้ บล.เครดิตสวิส มองว่า ยังเป็นการลงทุนในตราสารหนี้ เนื่องจากการที่ธนาคารกลางประเทศต่างๆ มีการปรับดอกเบี้ยขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ตราสารหนี้เป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจ และนักลงทุนมีโอกาสได้ส่วนต่างของราคาตราสารหนี้ หรือ Capital Gain
“เรายังให้น้ำหนักลงทุนในหุ้นไทย และตราสารหนี้ มากกว่าตลาด แม้ปัจจุบันหุ้นไทยจะไม่ได้ถูก และP/Eอยู่ที่ระดับ 15-16 เท่า แต่ภาพรวมท่องเที่ยวที่กลับมา ทำให้เป็นปัจจัยบวกต่อตลาดหุ้นไทย และคาดการณ์ว่ากำไร บจ. ปีนี้ก็น่าจะเพิ่มขึ้น ทำให้กองทุนต่างประเทศ กลับมาซื้อหุ้นไทยส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยปีนี้ จะดีที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา”
ส่วนธีมการลงทุนทั่วโลก บล.เครดิตสวิส ยังมอง 7 ธีมที่เป็นโอกาสในการลงทุน เช่น การฝากเงิน โดยเฉพาะในสหรัฐ จากที่เฟดขึ้นดอกเบี้ยทำให้ได้รับผลตอบแทนสูง และตราสารหนี้ที่มีเครดิตเรทติ้งสูงที่มีโอกาสในการลงทุนปีนี้ รวมถึงหุ้นจีน ที่ฟื้นตัวจากโควิด-19
นอกจากนี้ยังรวมถึงพลังงานสะอาด และการลงทุนใน Definsive Dividend Stocks คือ หุ้นที่ทนทานในทุกสภาพตลาด และกองทุน Hedge Fund & Private Debt ฯลฯ
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์