Sideways ซื้อหุ้นกลุ่ม Anti-commodity

คาดดัชนีฯ Sideways แนวต้าน 1,684/1,690 จุด แนวรับ 1,664/1,655 จุด ทางเทคนิค ดัชนีฯ อ่อนตัว หลังจากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,684 จุด ส่งผลให้ดัชนีฯ วันนี้ มีโอกาสแกว่งตัวในกรอบจำกัด
โดยมีปัจจัยกดดันจากการอ่อนตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันร่วงแรงต่อเนื่องในค่ำคืนที่ผ่านมา และการอ่อนตัวของหุ้น DELTA คำแนะนำ เชิงกลยุทธ์ ซื้อหุ้นกลุ่ม Anti-commodity ที่ได้ประโยชน์จากการปรับลงของราคาน้ำมันดิบโลก เช่น กลุ่มวัสดุก่อสร้าง กลุ่มบรรจุภัณฑ์ และกลุ่มโรงไฟฟ้า หุ้นแนะนำ SCC SCGP GPSC
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ
+ KTX Portfolio: AWC BGRIM CENTEL GLOBAL BH BEM CPALL AOT BBL KKP CPN MINT HMPRO KTB TTB BDMS NEX (ขาย GULF และ CK ซื้อ KKP)
+ Daily Recommendations: SCC (ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังจากเปิดประเทศ และต้นทุนการผลิตที่ลดลงตามราคาน้ำมันดิบโลก แนวรับ 340/337 บาท แนวต้าน 352/358 บาท) SCGP (มีปัจจัยบวกจากต้นทุนพลังงานที่ลดลง และอุปสงค์จากจีนที่ฟื้นตัวหลังเปิดประเทศ แนวรับ 57.00/56.00 บาท แนวต้าน 59.00/60.50 บาท) GPSC (แนวโน้มกำไร 4Q22E ทำจุดสูงสุดใหม่ จากการรับรู้การขึ้นค่า FT เต็มไตรมาส แนวรับ 74.25/73.25 บาท แนวต้าน 76.25/78.00 บาท)
+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการปรับลดของราคาน้ำมันดิบโลก: SCC SCGP GPSC
+ หุ้นกลุ่ม Reopening ที่มีแนวโน้มกำไรโดดเด่น: CENTEL ERW SHR BCH
+ หุ้นได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐ: CPALL CRC SNNP HMPRO GLOBAL
ปัจจัยลบ
- FOMC Minute: รายงานการประชุม FOMC เดือน ธ.ค. บ่งชี้ว่าเฟดยังคงมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อและคาดว่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง และมีการเน้นย้ำว่าแม้เฟดจะมีการลดขนาดการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. จาก 0.75% เป็น 0.50% แต่การดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดยังคงอยู่ เพื่อให้แน่ใจว่าเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%
- Oil: ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงในค่ำคืนที่ผ่านมา จากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย รวมทั้งการพุ่งขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในจีน รวมถึงการที่จีนเพิ่มโควตาส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันในปีนี้ ซึ่งตลาดมองว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้อุปสงค์ที่อ่อนแอภายในประเทศ ซึ่งจะเป็นลบต่อหุ้นอิงน้ำมันดิบโลก
ประเด็นสำคัญ
- Thailand: รายงานเงินเฟ้อเดือน ธ.ค. คาด 6% YoY, +0.1% MoM (Vs เดือน พ.ย. +5.55% YoY, -0.13% MoM)
- China: Caixin Service PMI เดือน ธ.ค. คาด 44.5 (Vs เดือน พ.ย. 46.7)
- US: รายงานจ้างงานภาคเอกชน ADP Employment Change เดือน ธ.ค. คาด +150k (Vs เดือน พ.ย. +127k) ดุลการค้าเดือน พ.ย. คาด -USD74bn. (Vs เดือน ต.ค. -USD78.2bn.) รายงานภาคบริการเดือน ธ.ค. คาด 44.4 (Vs เดือน พ.ย. 46.2)
- US: สุนทรพจน์ประธานเฟด Bostic และ Bullard
Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา
- ตลาดหุ้นไทยปิดลบครั้งแรกรอบ 10 วันทำการ: ดัชนีฯ ทำจุดสูงสุดของวันในช่วงเปิดตลาดที่ 1,685.11 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1,668.07 จุด -10.9 จุด ในภาคบ่าย และรีบาวนด์ท้ายตลาดมาปิดที่ 1,673.25 จุด –5.72 จุด วอลุ่มซื้อขาย 7.6 หมื่นล้านบาท นำลงโดยกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต -2.08% ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ -1.96% พลังงานและสาธารณูปโภค -1.38% ขนส่งและโลจิสติกส์ -0.69% หุ้นบวก >4% BGRIM AURA 7UP NCAP MONO TOA PRAPAT DPAINT หุ้นลบ >4% BANPU TLI ESSO SPRC RCL ALL KAMART
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นยุโรปปิดบวก: DJIA +0.40% S&P500 +0.75% NASDAQ +0.69% โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มวัสดุฯ หลังจาก FOMC ระบุว่ากรรมการเฟดมีความเห็นตรงกันว่าควรจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อลดความเสี่ยงที่จะมีต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนหุ้นยุโรปปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่สาม CAC40 +2.30% DAX +2.18% FTSE +0.41% โดยได้แรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่ลดลงของฝรั่งเศส (เดือน ธ.ค. 5.9% vs เดือน พ.ย. 6.2%) และข้อมูลกิจกรรมทางธุรกิจของยูโรโซนที่ดีเกินคาด
+/- น้ำมันดิบสหรัฐฯ ปิดลบ ส่วนทองคำปิดบวก: WTI -USD4.09 ปิดที่ USD72.84/บาร์เรล Brent -USD4.26 ปิดที่ USD77.84/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและการพุ่งขึ้นของยอดผู้ติดเชื้อ COVID-19 ในจีน จะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน ส่วนราคาทองคำปิดบวกต่อเนื่อง +USD12.9 ปิดที่ USD1,859/ออนซ์ จากการอ่อนค่าของค่าเงิน USD (-0.24% อยู่ที่ 104.2430) และการร่วงลงของ 10Y US Bond Yield (-6bps)
ประเด็นสำคัญ
- US: ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 3.9% ใน 4Q22 โดยสูงกว่าระดับ 3.7% ที่มีการเปิดเผยก่อนหน้านี้
- US: ISM เปิดเผยว่า PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ ปรับตัวลงสู่ระดับ 48.4 ในเดือน ธ.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 48.5 จากระดับ 49.0 ในเดือน พ.ย. จากการร่วงลงของคำสั่งซื้อใหม่ แม้ว่าการจ้างงานปรับตัวขึ้น
- US: สำนักงานสถิติของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผย ผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) พบว่า ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานลดลง 54,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 10.458 ล้านตำแหน่ง ในเดือน พ.ย. แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 10.0 ล้านตำแหน่ง
+/- Thailand: คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะสูงสุดใน 3Q22 และมีแนวโน้มทยอยปรับลดลงกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายนโยบายการเงินภายในปีนี้ อย่างไรก็ดี ยังมีความเสี่ยงจากปัจจัยต่าง ๆ ภายนอกประเทศการส่งผ่านต้นทุนที่อาจเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของ ภูมิทัศน์ด้านพลังงานและภูมิรัฐศาสตร์ที่จะส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเงินเฟ้อในอนาคตได้
กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)
หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: AAV SCC GPSC
หุ้นแนะนำเก็งกำไร: SCC SCGP GPSC
Derivatives: ถือ Long S50H23 รอทำกำไรตามเป้า