MAKRO แนวโน้มสดใส (17 พฤศจิกายน 2565)

MAKRO แนวโน้มสดใส (17 พฤศจิกายน 2565)

เราคาดว่ารายได้จากการขายจะฟื้นตัวใน 4Q65F จากทั้งธุรกิจค้าส่งและธุรกิจค้าปลีก (SSSG ดีขึ้นทั้ง MAKRO และ Lotus’s) แรงหนุนจาก i) เป็นช่วง high season, ii) กิจการมทางธุรกิจกลับมาดำเนินได้ตามปกติและจำนวนนักท่องเที่ยวที่กลับมา

และ iii) การขยายธุรกิจในช่องทางออนไลน์ บริษัทยังคงมีการขยายสาขา (จากทั้ง MAKRO และ Lotus’s) และพัฒนาช่องทางออนไลน์ต่อเนื่องในปี 2566 โดยตามแผนการขยายสาขา MAKRO เดินหน้าจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 12 แห่งในประเทศไทยและ 6 แห่ง ในต่างประเทศ รวมทั้ง Lotus จะเปิดไฮเปอร์มาร์เก็ตอีก 3-4 แห่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต 5 แห่งและรูปแบบมินิ-ซุปเปอร์มาร์เก็ตอีกจำนวน 200 แห่ง ขณะที่รายได้จากค่าเช่าเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับระดับก่อน Covid-19 ระบาด โดยมี occupancy rate อยู่ที่ประมาณ 92-93% เทียบกับก่อน Covid-19 ที่ 96% และมีการให้ส่วนลดค่าเช่าน้อยมาก

 

ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นยังคงกดดัน

เราคาดว่า ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับระบบ IT ต้นทุนการทำ rebranding และค่าใช้จ่ายในการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อาจพุ่งสูงสุดใน 4Q65F แต่จะชะลอลงในปีถัดไป ขณะที่เรายังมีความกังวลในประเด็นค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยสูงขึ้นจากผลของอัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาขึ้น เมื่อสิ้นงวด 3Q65 บริษัท ฯ มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ยอยู่ที่ 1.17 แสนล้านบาทโดยเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 54% ของเงินกู้ และเป็นอิงอัตราดอกเบี้ยลอยตัวถึง 93% ทั้งนี้ภายใต้สมมติฐานของเรา เมื่อทุกๆ 1% ที่อัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น จะส่งผลต่อประมาณการกำไรสุทธิของเราราว 200 ล้านบาทต่อไตรมาส บริษัทตั้งเป้าที่จะเปลี่ยนจากหนี้ที่เป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐให้เป็นเงินสกุลบาท และเปลี่ยนหนี้ที่มีอัตราดอกเบี้ยลอยตัวเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ภายในปี 2566

 

 

 

 

 

กระบวนการ Synergy ดำเนินการอยู่และคาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปี 2566

ในปี 2565 เป็นอีกปีหนึ่งที่ MARKO จะมีการปรับฐานด้านกำไรสุทธิ โดย MAKRO ตั้งเป้าที่จะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการ Synergy ระหว่าง MAKRO และ Lotus’s ไว้ที่ 2.7 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดจะได้รับประโยชน์ประมาณครึ่งหนึ่งในปี 2565 และส่วนที่เหลือจะอยู่ในปีถัดไป ทั้งนี้ภ ายใต้สมมติฐานประมาณการกำไรสุทธิปี 2565-2566 ของเรา กำไรปกติต่อหุ้นในเบื้องต้นอาจจะลดลง 44% ในปี 2565 แต่จะทะยานกลับสูงขึ้น 70% ปี 2566

 

Valuation

เราคงคำแนะนำ "ซื้อ" MAKRO โดยประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 40.00 บาท อิงจาก PER ที่ 35.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตของ MAKRO และ C.P. All (CPALL.BK/CPALL TB)* +1.0 S.D)

 

Risk

เศรษฐกิจชะลอตัวลง ราคาสินค้าเกษตรลดลง ขยายสาขาได้น้อยกว่าแผนที่กำหนดไว้ disruption ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่ ความเสี่ยงด้านกฏเกณฑ์ทางการ และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายกิจการในต่างประเทศ