CK - ได้ดีเพราะลูกๆ (8 พฤศจิกายน 2565)

เรายังคงคำแนะนำซื้อ CK และประเมินราคาเป้าหมายใหม่ที่ 27.50 บาท อิงจาก 1) backlog ที่มีคุณภาพสูง 2) โอกาสที่จะได้โครงการใหม่เพิ่มเติม และ 3) รายได้จากเงินปันผล และ equity income ที่สูงขึ้น

 

กำไรใน 3Q จะดีขึ้นทั้ง yoy และ qoq

เราคาดว่ากำไรจะดีขึ้นเพราะรายได้จากเงินปันผล และ equity income จาก TTW, BEM และ CKP เพิ่มขึ้น โดยเราคาดว่า CK จะบันทึกรายได้จากเงินปันผล 232 ล้านบาทจาก TTW, รายได้ equity profit 228 ล้านบาทจาก BEM และ 428 ล้านบาทจาก CKP ในขณะเดียวกัน เราคาดว่ารายได้จากงานก่อสร้างจะเพิ่มขึ้น qoq เป็น3.8 พันล้านบาท ทั้งนี้ เราคาดว่ากำไรสุทธิใน 3Q22F จะอยู่ที่ 492 ล้านบาท (+79% yoy, +64% qoq)

มีโอกาสจะได้สัญญางานใหม่เพิ่มอีก

เมื่อสิ้นเดือนกันยายน 2022 CK มี backlog ในมือ 6.28 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 4.59 หมื่นล้านบาทเมื่อสิ้นเดือนธันวาคม 2021 ถึงแม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับประเด็นกฎเกณฑ์ของทางการ แต่เราคิดว่า BEM จะเซ็นสัญญาโรงการรถไฟฟ้าสายสีส้มกับ รฟม. ได้ภายในสิ้นปี 2022 นี้ นอกจากนี้ เรายังคาดว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางซึ่งมีมูลค่าก่อสร้างราว 8.0 หมื่นล้านบาท -1 แสนล้านบาทจะเซ็นสัญญา PPA ได้ภายในสิ้นปี 2022 นี้เช่นกัน เราคาดว่าโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และ โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำหลวงพระบางจะทำให้ backlog ของ CK ทำสถิติสูงสุดใหม่แตะระดับ 2 แสนล้านบาท

 

มีเงินทุนเพียงพอสำหรับทำโครงการใหม่

สำหรับโครงการ megaproject บริษัทจะได้รับเงินล่วงหน้า 10% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งเพียงพอที่จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับก่อสร้างตลอดทั้งดครงการได้ นอกจากนี้ บริษัทยังน่าจะแบ่งงานก่อสร้างออกไปให้กับ subcontractor หลายราย ซึ่งจะลดความต้องการเงินทุน และความเสี่ยงในการดำเนินงานลงได้

 

คงคำแนะนำ “ซื้อ” และประเมินราคาเป้าหมายที่ 27.50 บาท

เราแนะนำซื้อเนื่องจาก 1) คุณภาพ backlog มีคุณภาพดีกว่าของคู่แข่ง 2) มีโอกาสจะได้โครงการใหม่เพิ่มเติม และ 3) รายได้จากเงินปันผล และ equity income เพิ่มขึ้นจาก TTW, BEM และ CKP ทั้งนี้ เราคำนวณราคาเป้าหมายโดยวิธี SoTP