Sideways ซื้อเก็งกำไร MAKRO COM7 SNNP (31 ต.ค. 2565)

ขณะที่โมเมนตัมตลาดเป็น Neutral เพื่อรอความชัดเจนของอัตราดอกเบี้ยเฟด ในการประชุมกลางสัปดาห์นี้ (สินทรัพย์เสี่ยงอาจกลับมาถูกขาย หากเฟดไม่ส่งสัญญาณชะลอการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังการประชุมเฟดครั้งนี้)  ไฮไลท์วันนี้ คือ 3Q22E Earnings Results: China รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน ต.ค. ของ NBS คาด 50/50.5 (Vs เดือน ก.ย. 50.1/50.6); EU รายงาน 3Q22E GDP Growth คาด -0.1% QoQ, 1% YoY (Vs 2Q22 +0.8% QoQ, +4.1% YoY); CPI เดือน ก.ย. คาด +10.1% YoY, 1% MoM (Vs เดือน ส.ค. +9.9% YoY, +1.2% MoM); Thailand ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก.ย. คาดลดลงเป็น -USD3.2bn. (Vs เดือน ส.ค. -USD3.5bn.)

 

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ

+ KTX Portfolio: พอร์ต Big Cap แนะนำ GULF CRC AWC CK TCAP BH BEM AOT BBL EA KKP CPN MINT KTB TTB BDMS

+ Daily Recommendations: MAKRO (แนวโน้มกำไร 2H22E ฟื้นตัว จากการที่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการที่เป็นลูกค้าหลักกลับมาเปิดธุรกิจตามปกติ) COM7 (คาดมีแรง เก็งกำไรการกลับเข้าคำนวณ SET50/SET100 หลังจากตลท. ปรับเกณฑ์ Turnover Ratio จาก 5% เป็น 2%) SNNP (Consensus คาดกำไร 3Q22E โต +20.9% QoQ และ +127.3% YoY)

+ หุ้นที่ได้ประโยชน์จากการซ่อมแซมบ้านเรือนหลังน้ำท่วม: GLOBAL HMPRO DOHOME

+ หุ้นได้ประโยชน์จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น: CENTEL ERW AOT BAFS AAV SPA

+ หุ้นได้ประโยชน์จากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก: BEC CPALL SNNP BJC

 

ปัจจัยบวก

+ Fund Flow: นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สอง ด้วยปริมาณสูงขึ้น 4 เท่า เป็น +8,464 ล้านบาท (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +2 พันล้านบาท) หลังจากขายต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ สะสม –24,899 ล้านบาท เช่นเดียวกันตลาดอนุพันธ์ ต่างชาติกลับมำ เปิด Long SET50 Index Futures เป็นสัปดาห์ที่สอง สูงถึง +78,089 สัญญา (Vs สัปดาห์ก่อนหน้า +75,342 สัญญา) หลังจากเปิด Short สะสม 5 สัปดาห์ สูงถึง -241,504 สัญญา

 

ประเด็นสำคัญ

- China: รายงานภาคการผลิตและบริการเดือน ต.ค. ของ NBS คาด 50/50.5 (Vs เดือน ก.ย. 50.1/50.6)

- EU: รายงาน 3Q22E GDP Growth คาด -0.1% QoQ, 1% YoY (Vs 2Q22 +0.8% QoQ, +4.1% YoY); CPI เดือน ก.ย. คาด +10.1% YoY, 1% MoM (Vs เดือน ส.ค. +9.9% YoY, +1.2% MoM)

- Thailand: ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก.ย. คาดลดลงเป็น -USD3.2bn. (Vs เดือน ส.ค. -USD3.5bn.)

 

Global Market Summary: วันทำการที่ผ่านมา

+ ตลาดหุ้นไทยปิดบวกเป็นวันที่ 3: ตลาดหุ้นไทยปรับตัวดีกว่าตลาดหุ้นภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง โดยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ 1,607.75-1,598.18 จุด ก่อนปิดตลาดที่ 1,606.07 จุด +3.74 จุด วอลุ่มซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท นำขึ้นโดยกลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ +5.1% ธุรกิจการเกษตร +0.75% พลังงานและสาธารณูปโภค และพาณิชย์ +0.57% หุ้นบวก >4% DELTA SPACK MBK ITNS PSG TQM CMO SICT SA SMK หุ้นลบ >4% JKN JWD RBF KAMART UMI CH

 

 

+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรง ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ: DJIA +2.59% S&P500 +2.46% NASDAQ +2.87% ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรง โดยหุ้น 10 จาก 11 กลุ่มอุตสาหกรรมที่คำนวณดัชนี S&P500 ปิดบวก นำโดยกลุ่มเทคโนโลยี +4.52% (Apple +7.6% Intel +10.7%) กลุ่มสื่อสาร +2.98% รับความหวังเฟดอาจชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังตัวเลขเงินเฟ้อรายเดือนเริ่มส่งผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดย Core PCE Inflation เดือน ก.ย. +5.1% YoY (Vs คาด +5.2% YoY) และ PCE Inflation เดือน ก.ย. +6.2% YoY (Vs คาด +6.3% YoY) และตัวเลขยอดขายบ้าน Pending Home Sales เดือน ก.ย. ดิ่งลงแรง -10.2% MoM (คาด -4% MoM) ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค Michigan Consumer Sentiment เดือน ต.ค. สูงกว่าคาด เป็น 59.9 จากที่คาดที่ 59.8 และในเดือน ก.ย. ที่ 58.6 (ทั้งสัปดาห์ DJIA +5.72% WoW S&P500 +3.95% WoW Nasdaq +2.24% WoW) ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดผสมผสาน CAC40 +0.46% DAX +0.24% FTSE -0.37% ปัจจัยบวกมาจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯ หลังจาก Apple รายงานกำไรดีกว่าคาด และรายงาน 3Q22 GDP ของ Germany ดีกว่าคาด +0.3% QoQ +1.2% YoY (Vs คาด -0.2% QoQ +0.8% YoY และ 2Q22 +0.1% QoQ +1.7% YoY) ส่วนปัจจัยลบ คือ การกังวลต่อการเร่งขึ้นของดอกเบี้ยของ อีซีบี หลัง Germany รายงานเงินเฟ้อเดือน ต.ค. พุ่งแรง +0.9% MoM +10.4% YoY สูงกว่าคาดที่ 0.6% MoM 10.1% YoY (ทั้งสัปดาห์ CAC40 +3.94% WoW DAX +4.03% WoW FTSE +1.07% WoW)

- น้ำมันดิบโลกและทองคำปิดลบ: การกลับมาแข็งค่าของค่าเงินสกุล USD +0.15% แตะ 110.7 และยิลด์พันธบัตรสหรัฐฯ 2 ปี ที่กลับมาเพิ่มขึ้นเป็น 4.41% (Vs วันก่อนหน้า 4.36%) ส่งผลลบต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ร่วงลง WTI -USD1.18 ปิดที่ USD87.90/บาร์เรล Brent -USD1.19 ปิดที่ USD95.77/บาร์เรล และราคาทองคำปิดลบ -USD20.80 ปิดที่ USD1,644.80/ออนซ์ (ทั้งสัปดาห์ WTI +3.35% WoW Brent +2.43% WoW Gold -0.69% WoW)

 

ประเด็นสำคัญ

+ US: เฟด สาขาแอตแลนตา เปิดเผยว่า แบบจำลองคาดการณ์ GDPNow ล่าสุดแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 3.1% ใน 4Q22E โดยเฟด สาขาแอตแลนตา จะรายงานตัวเลขคาดการณ์ GDPNow ครั้งใหม่ในวันที่ 1 พ.ย.

- US: นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซคส์ คาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ในการประชุมสัปดาห์นี้ จากนั้นอีก 0.50% ในการประชุมเดือน ธ.ค. ต่อด้วย 0.25% ในการประชุมเดือน ก.พ. และ 0.25% ในการประชุมเดือน มี.ค. ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. ปีหน้า เพิ่มขึ้นเป็น 5% เนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงจนน่ากังวล และต้องการลดความร้อนแรงของเศรษฐกิจเมื่อการกวดขันทางการเงินสิ้นสุดลงและรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็พยายามเลี่ยงไม่ให้สภาวะทางการเงินผ่อนคลายก่อนถึงเวลาสมควร

- US: สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ดีดตัวขึ้น 6.2% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 6.2% เช่นกันในเดือน ส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.3% ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 5.1% ในเดือน ก.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.2% แต่สูงกว่าระดับ 4.9% ในเดือน ส.ค.

- Thailand: สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2022E ลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.4% จากเดิม 3.5% เนื่องจากการลงทุนภาคเอกชนชะลอตัวลง ซึ่งเป็นผลจากราคาต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดี มองว่าการท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยช่วยหนุนเศรษฐกิจได้ โดยปรับเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปีนี้เป็น 10.2 ล้านคน ส่วนเงินเฟ้อทั้งปีเฉลี่ย 6.2% ส่งออกโต 8.1% พร้อมคาดการณ์ปี 2023E เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3.8% จากผลของการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวได้มากขึ้น จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีน จะกลับมามากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ขณะที่การส่งออกโต 2.5% ชะลอตัวจากปีนี้ และเงินเฟ้อลดลงเหลือ 2.9%

กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Trading Buy (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: SINGER AMANAH COM7

หุ้นแนะนำเก็งกำไร: MAKRO COM7 SNNP

Derivatives: แนะถือ Long S50Z22