เสนาพลิกเกมอสังหาฯ ‘Perovskite’ นวัตกรรมพลังงานแห่งอนาคต สู่ความยั่งยืน

ในยุคที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและราคาพลังงานที่สูงขึ้น กลายเป็นความท้าทายในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ แนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม หรือ "บ้านรักษ์โลก" ไม่ใช่เพียงกระแส แต่คือความจำเป็นสำหรับอนาคตที่ยั่งยืน

ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าว “บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ เสนา”ได้วางตนเองในฐานะผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่นำแนวคิดความยั่งยืนมาเป็นแกนหลักของการดำเนินธุรกิจฃ และไม่ใช่เพียงกลยุทธ์ทางธุรกิจเท่านั้น  แต่เป็นการแสดงถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีรากฐานความคิดมาจากเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับโลก ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัยในวันนี้และวันข้างหน้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

10 สัญญาณเตือนว่าคุณเริ่มแก่.. หยุดพฤติกรรมก่อนหน้าแก่

ลดความเครียด สร้างอารมณ์ดี ด้วย 'Mindful Eating' กินอย่างมีสติ

เป้าหมายสร้างบ้าน ตาม 4 SDGs

เสนาได้ยึดโยงแนวทางการพัฒนาโครงการเข้ากับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน 17 ข้อของสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals: SDGs) โดยมองว่าเป้าหมายเหล่านี้คือ "ปัญหาท้าทายของสังคม (Social Challenge)" ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข แทนที่จะมองเป้าหมายเหล่านี้เป็นเรื่องไกลตัว

 “ดร.ยุ้ย เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์”  ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” ว่าการสร้างบ้านของเสนาได้มีการนำ เป้าหมายของ SDGs มาปรับใช้ให้เกิดเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้น 4 ด้านหลักได้แก่

1.การขับเคลื่อนพลังงานสะอาดที่เข้าถึงได้ ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญที่เสนาเชื่อว่าสามารถลงมือทำได้ทันทีและเห็นผลชัดเจนที่สุด เช่น การนำพลังงานแสงอาทิตย์ โซลาร์เซลล์ มาใช้ในโครงการที่อยู่อาศัย 

2.การเป็นผู้ผลิตที่รับผิดชอบต่อสังคม นอกเหนือจากการสร้างและขายบ้าน เสนามุ่งมั่นที่จะเป็นผู้ผลิตที่คำนึงถึงคุณภาพของที่อยู่อาศัยและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสังคมในทุกมิติ

และ 3.สร้างสังคมที่ทุกคนเข้าถึงที่อยู่อาศัย "บ้าน" คือปัจจัยที่สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนได้ เสนาพยายามลดช่องว่างในการเข้าถึงที่อยู่อาศัย ผ่านโครงการอย่าง "เช่าออมบ้าน" ซึ่งเป็นหนึ่งใน Social Impact เพื่อช่วยให้คนสามารถมีบ้านเป็นของตัวเองได้ง่ายขึ้น

4 .อนาคตของการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อความไว้วางใจของลูกค้าตลอดทุกช่วงชีวิต ที่ตอกย้ำความเป็น SENA Sustainable Living Leader ที่มุ่งสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนไทย

“Perovskite” นวัตกรรมใหม่โซลาร์เซลล์

ดร.ยุ้ย เล่าต่อว่าการลงมือทำเรื่องพลังงานสะอาด เป็นสิ่งที่เสนาดำเนินการมาโดยตลอด  ซึ่งเสนาได้สร้างมาตรฐานให้กับอสังหาริมทรัพย์ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ให้กับบ้านทุกหลังในโครงการ เป็นการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดในที่อยู่อาศัย และขณะนี้บริษัทมองเห็นโอกาสในการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น เพื่อลดข้อจำกัดเดิม และพลังงานสูญเปล่าที่เกิดขึ้นจากเทคโนโลยีแผงโซลาร์เซลล์แบบดั้งเดิม (แบบซิลิคอน) ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดด้านน้ำหนัก มุมในการติดตั้งที่ต้องเหมาะสม หรือประสิทธิภาพที่ยังสามารถปรับปรุงได้อีก

“บริษัท เสนา กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ภายใต้บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แม็คนิก้า ประเทศญี่ปุ่น ในโครงการสาธิตการใช้งานเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดเพอรอฟสไกต์ในสภาพอากาศเขตกึ่งร้อน  ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านกลไกเครดิตร่วม  เป็นการนำเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ชนิดใหม่ ที่เรียกว่า "Perovskite Solar Cell" เข้ามาทดลองใช้งานในประเทศไทย เทคโนโลยีดังกล่าวมีศักยภาพปฏิวัติวงการพลังงานสะอาดด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและแตกต่างจากแผงโซลาร์เซลล์แบบดั้งเดิม”ดร.ยุ้ย กล่าว

นำร่องทดลองจริงในประเทศไทย

ดร.ยุ้ย เล่าด้วยว่าเสนา มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นพื้นที่ทดลองเทคโนโลยี Perovskite Solar Cell แห่งแรกๆ นอกจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการทดลองนี้ไม่ได้เน้นจำนวนบ้าน แต่เป็นการทดสอบตำแหน่งและทิศทางการติดตั้ง ที่หลากหลาย เช่น การติดตั้งในแนวตั้ง การติดบนพื้นผิวที่แตกต่างกัน เพื่อเก็บข้อมูลประสิทธิภาพการทำงานภายใต้สภาพอากาศและความเข้มของแสงแดดในประเทศไทย โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งตรงไปยังประเทศญี่ปุ่นแบบเรียลไทม์เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาต่อไป

“Perovskite  เป็นนวัตกรรมโซลาร์เซลล์ที่มีความเบามาก ยืดหยุ่น โค้งงอได้ ติดตั้งได้ทุกที่  และวิธีการติดตั้งง่ายมาก สามารถใช้เทปก้าวสองหน้าติดตั้งก็ได้ ดังนั้น แม้เทคโนโลยีดังกล่าว จะยังอยู่ในช่วงทดลอง แต่จะเมื่อผลออกมาแล้วจะมีการนำมาใช้งานในประเทศไทย เพื่อให้ทุกคนเข้าถึงพลังงานสะอาด ทำให้การมีบ้านรักษ์โลก เป็นเรื่องง่ายขึ้น และยังสอดคล้องกับการสร้างเมืองอัจฉริยะที่ทุกคนเข้าถึงได้ของไทยด้วย” ดร.ยุ้ย กล่าว

"เมืองอัจฉริยะ" ในโครงการของเสนา

วิสัยทัศน์ของเสนาไม่ได้หยุดอยู่แค่บนหลังคาบ้าน แต่ขยายไปสู่แนวคิด "โซลาร์ทุกที่ หรือ Solar Everywhere" ซึ่งพยายามที่จะติดตั้งโซลาร์เซลล์ในทุกจุดที่เป็นไปได้ภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นไฟส่องสว่างในพื้นที่ส่วนกลาง หรือจุดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อใช้ประโยชน์จากพลังงานสะอาดให้ได้สูงสุด ภายใต้การนำหลักการของ "เมืองอัจฉริยะ (Smart City)" มาเป็นเครื่องมือในการตอบโจทย์  พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย เพื่อทำให้การใช้ชีวิตแบบรักษ์โลก" เป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบายสำหรับลูกบ้าน โดยไม่ต้องมีต้นทุนเพิ่ม

"ความยากของผู้พัฒนาไม่ได้อยู่ที่การทำให้บ้านเขียว แต่อยู่ที่การทำให้เกิดบ้านเขียว โดยที่ต้นทุนไม่เพิ่มและลูกบ้านใช้งานได้ง่ายจริง  เป็นการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการขยะ การประหยัดพลังงาน หรือการเดินทาง ซึ่งการพัฒนาของเสนาจะสะท้อนให้เห็นชัดเจนของการผสานเป้าหมายทางธุรกิจเข้ากับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีเทคโนโลยีพลังงานสะอาดเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อน”ดร.ยุ้ย กล่าว

ก้าวต่อไป “เสนา” ขับเคลื่อนอสังหาริมทรัพย์

ดร.ยุ้ย  กล่าวอีกว่าทิศทางในอนาคตของเสนาได้วางเป้าหมายที่ชัดเจน โดยปี 2569 จะต่อยอดแนวคิด "Solar Everywhere" และให้ความสำคัญกับ "แบตเตอรี่" มากขึ้น เพื่อบริหารจัดการพลังงานสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยกลยุทธ์การเติบโต บริษัทได้ตัดสินใจเลือกที่จะ "เพิ่มความลึกของตลาด" ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แทนที่จะ "ขยายความกว้างทางภูมิศาสตร์" ไปยังต่างจังหวัด

 “เสนา” ไม่ได้มองตัวเองเป็นเพียงผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่กำลังวางบทบาทในฐานะ "ผู้สร้างสรรค์โซลูชัน" เพื่อแก้ปัญหาใหญ่ของสังคม โดยเฉพาะในมิติของการเข้าถึงที่อยู่อาศัย และการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน อาทิ การเปลี่ยนค่าเช่าให้เป็นทุนซื้อบ้าน, การนำเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ใหม่มาทดลองใช้ และการยึดมั่นในปรัชญาบ้านรักษ์โลกที่ราคาไม่เพิ่ม ไปจนถึงการย่อส่วนเมืองอัจฉริยะมาไว้ในบ้าน เพื่อเป็นจิ๊กซอว์ที่ประกอบกันเป็นภาพของอนาคตการอยู่อาศัย ที่ไม่ได้มีแค่ความสะดวกสบาย แต่ต้องยั่งยืนและเท่าเทียม