กรมวิชาการเกษตร ร่วม กทม. แก้ปัญหาฝุ่น ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซัง ฟางข้าว

กรมวิชาการเกษตร ร่วม กทม. แก้ปัญหาฝุ่น ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซัง ฟางข้าว

กรมวิชาการเกษตรจับมือ กทม.นำร่องลุยแก้ปัญหาฝุ่นPM 2.5 ภาคเกษตรใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังและฟางข้าว ช่วยเกษตรกรลดการเผาฟาง และเพิ่มธาตุอาหารในดิน

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผย งาน Kick off ขับเคลื่อน“กิจกรรมสาธิตการใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตร เพื่อย่อยสลายตอซังฟางข้าว” ว่า  การลดการเผาตอซังเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยในปี 2567 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รณรงค์ให้เกษตรกร ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเผา ตั้งเป้าลดการในพื้นตรลที่เกษงร้อยละ 50 กรมวิชาการเกษตรจึงได้ขยายนโยบายดังกล่าว โดยนำร่องร่วมกับกรุงเทพมหานคร ณ แปลงนาสาธิตของกรุงเทพมหานคร แขวงทรายกองดินใต้ เขตคลองสามวา

 

กรมวิชาการเกษตร ร่วม กทม. แก้ปัญหาฝุ่น ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซัง ฟางข้าว กรมวิชาการเกษตร ร่วม กทม. แก้ปัญหาฝุ่น ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซัง ฟางข้าว

ทั้งนี้การเผาตอซังฟางข้าว ก่อให้เกิดปัญหาหมอกควัน ฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ ของประชาชนเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติของดิน ทำให้ดินแน่นทึบ อัตราการซาบซึมน้ำต่ำ การเผาตอซังทำให้ปริมาณไนโตรเจนที่ผิวดินลดลง ความหลากหลายของจำนวนและชนิดจุลินทรีย์ลดลง การเผาตอซัง เป็นการสูญเสียธาตุอาหารที่ควรจะหมุนเวียนลงดินในพื้นที่ปลูกข้าว

 

รวมทั้งการเผาตอซังหลังการเก็บเกี่ยวเป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ บรรยากาศ ก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อนอีกทั้งการเผาทำให้เกิดสถานการณ์ฝุ่นPM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงในช่วงเดือน ธันวาคม ถึงเดือนมีนาคมของทุกปีการไม่เผาตอซังฟางข้าวในเขตกรุงเทพมหานคร จะเป็นการลดผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 และเป็นการส่งคืน ธาตุอาหาร และอินทรียวัตถุลงสู่ดินเป็นการผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ดังนั้นการจัดการตอซังฟางข้าวอย่างเหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่เกษตรกร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตระหนัก และให้ความสำคัญกรมวิชาการเกษตรจึงได้จัดทำโครงการวิจัยการขยายผลการใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตร เพื่อย่อยสลายตอซังฟางข้าวสำหรับการเตรียมดินในแปลงนาเขตชลประทานในพื้นที่รอบกรุงเทพมหานคร และเขตชลประทานอื่นที่มีปัญหาฝุ่นPM 2.5ณ แปลงนาสาธิตของ นายสุรชัย โชติอ่ำ แขวงทรายกองดิน เขตคลองสามวากรุงเทพมหานคร 

กรมวิชาการเกษตร ร่วม กทม. แก้ปัญหาฝุ่น ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซัง ฟางข้าว กรมวิชาการเกษตร ร่วม กทม. แก้ปัญหาฝุ่น ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซัง ฟางข้าว

ซึ่งได้มีการสาธิตวิธีการใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตร โดยเกษตรกรเดินพ่นหว่านหัวเชื้อจุลินทรีย์ อัตราหัวเชื้อจุลินทรีย์ 1.5 กิโลกรัมต่อไร่ ร่วมกับปุ๋ยยูเรียอัตรา 5 กิโลกรัมต่อไร่ เพื่อย่อยสลายตอซังและฟางข้าวภายในระยะเวลา7 วันสอดรับกับการทดสอบของกรมวิชาการเกษตร ที่ใช้โดรนในการพ่นหว่านเชื้อจุลินทรีย์ อัตรา 1.5 กิโลกรัมต่อไร่ในแปลงของเกษตรกร เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร พบการทดสอบพบว่า สามารถย่อยสลายตอซังและฟางเข้าภายใน 7 วัน โดยเกษตรกรสามารถเตรียมแปลงปลูกข้าวได้ตามปกติ ซึ่งการไม่เผาตอซังไม่กระทบการเจริญเติบโตของข้าว ในขณะที่ยังทำให้ผลผลิตข้าวสูงกว่าการไม่ใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายฯ หากมีการใช้ในระยะยาวจะก่อประโยชน์สูงสุดต่อเกษตรกร

“กรมวิชาการเกษตรได้จัดทำแผนสาธิตการใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตรย่อยสลายตอซังฟางข้าวสำหรับเตรียมดินในแปลงนาเขตชลประทานในพื้นที่เขตหนองจอก คลองสามวา และลาดกระบังของกรุงเทพมหานครและได้ผลิตขยายหัวเชื้อจุลินทรีย์ย่อยสลายวัสดุอินทรีย์ของกรมวิชาการเกษตรจำนวน 20 ตัน เพื่อจำหน่ายให้แก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรปลูกข้าว รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้นำหัวเชื้อจุลินทรีย์ฯ ไปใช้เพื่อร่วมกันลดการเผาฟางซึ่งเป็นแนวทางในการแก้ปัญหาฝุ่นPM2.5 ภาคการเกษตร และยังสามารถเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งเป็นการลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยให้เกษตรกรได้อีกด้วย”