กรมวิชาการเกษตร คัดสุดยอดกาแฟไทย โชว์เทศกาล ที่รัสเซียและเยอรมัน

กรมวิชาการเกษตร คัดสุดยอดกาแฟไทย โชว์เทศกาล ที่รัสเซียและเยอรมัน

กรมวิชาการเกษตร จับมือ หน่วยงานรัฐและภาคีภาคเอกชน ร่วมจัดงานประกวดสุดยอดกาแฟไทยปี 2566 คัดสรรสุดยอดเมล็ดกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาคุณภาพดี เพิ่มมูลค่าขยายโอกาสช่องทางการตลาด โชว์ เทศกาลสินค้าเกษตร ณ ประเทศรัสเซียและเยอรมัน

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า กรมวิชาการเกษตรได้ดำเนินงานตามพระราชดำริด้วยงานวิจัยและพัฒนากาแฟไทย โดยส่งเสริมประชาสัมพันธ์เอกลักษณ์กาแฟไทยสู่กาแฟคุณภาพดีระดับโลก ซึ่งผลรวมมูลค่ากาแฟที่เกิดขึ้นจากการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2565 มีมูลค่า 1.3 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าจากการประมูลรวม 892,749.50 บาท แบ่งเป็นยอดการประมูลกาแฟอะราบิกากระบวนการแปรรูปวิธีแห้ง รวม 176,340.50 บาท กาแฟอะราบิกากระบวนการแปรรูปวิธีเปียก รวม 156,271.00 บาท กาแฟอะราบิกากระบวนการแปรรูปวิธีกึ่งแห้ง รวม 355,157.50 บาท และโรบัสตา รวม 204,980.50 บาท  รวมถึงมูลค่าจากการจำหน่ายกาแฟของเกษตรกรที่ได้คะแนนตั้งแต่ลำดับที่ 11 เป็นต้นไป รวม 550,622.35 บาท

แบ่งเป็นการจำหน่ายกาแฟอะราบิกา 193,126.60 บาท และการจำหน่ายกาแฟโรบัสตา 357,468.75 บาท ซึ่งเกษตรกรได้รับจำนวนเงินที่ได้จากการประมูลกาแฟที่ได้ลำดับ 1-10 โดยไม่หักค่าใช้จ่าย และเกษตรกรที่ไม่ได้ลำดับ 1-10 ก็ได้รับจำนวนเงินตามที่จัดจำหน่ายได้ตามลำดับชั้นคะแนนและปริมาณกาแฟที่เหลือจากการชักสุ่มตัวอย่างมาใช้ในกระบวนการประกวด (ราคาจำหน่ายขึ้นกับคะแนนที่ได้รับ) 

กรมวิชาการเกษตร คัดสุดยอดกาแฟไทย โชว์เทศกาล ที่รัสเซียและเยอรมัน กรมวิชาการเกษตร คัดสุดยอดกาแฟไทย โชว์เทศกาล ที่รัสเซียและเยอรมัน กรมวิชาการเกษตร คัดสุดยอดกาแฟไทย โชว์เทศกาล ที่รัสเซียและเยอรมัน

 

ในปี 2566 นี้ กรมวิชาการเกษตร ได้ร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรด้านกาแฟ อาทิ กรมส่งเสริมการเกษตร กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สมาคม และภาคีภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องในธุรกิจกาแฟ จัดการประกวดสุดยอดกาแฟไทย ปี 2566 ภายใต้แนวคิด การผลิตอย่างยั่งยืน เพื่อรณรงค์และส่งเสริมสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรผลิตกาแฟอะราบิกาและโรบัสตาของไทย ให้มีคุณภาพดีตลอดห่วงโซ่การผลิตกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ

 รวมถึงรสชาติกาแฟจนได้เป็นเมล็ดกาแฟไทยเกรดพิเศษ อีกทั้งเป็นการรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟตระหนักถึงความสําคัญของการปลูกกาแฟที่ทำให้ได้ผลผลิตกาแฟมีคุณภาพ และแสดงถึงอัตลักษณ์ของกาแฟไทย พร้อมทั้งยังช่วยส่งเสริมและพัฒนากาแฟไทยให้มีคุณภาพดีสู่ระดับโลก เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ และความยั่งยืนแก่เกษตรกรไทย 

 

กรมวิชาการเกษตร คัดสุดยอดกาแฟไทย โชว์เทศกาล ที่รัสเซียและเยอรมัน กรมวิชาการเกษตร คัดสุดยอดกาแฟไทย โชว์เทศกาล ที่รัสเซียและเยอรมัน

การจัดงานในปี 2566 นี้ กรมวิชาการเกษตรได้เปิดขยายเวลาการรับสมัครและสิ่งประกวดกาแฟอะราบิกาและกาแฟโรบัสตาไปจนถึงวันที่ 10 มิถุนายน 2566 โดยมีรายละเอียดลักษณะสิ่งประกวดจำแนกกระบวนการแปรรูป 4 กระบวนการ 5 ประเภท คือ

1.กาแฟอะราบิกา กระบวนการแปรรูปวิธีแห้ง (Arabica dried process; AD)

 2.กาแฟอะราบิกา กระบวนการแปรรูปวิธีเปียก (Arabica washed process; AW)

 3.กาแฟอะราบิกา กระบวนการแปรรูปวิธีกึ่งแห้ง (Arabica honey process; AH) 

4.กาแฟอะราบิกา กระบวนการแปรรูปโดยใช้นวัตกรรม

และ 5.กาแฟโรบัสตา (ไม่แยกกระบวนการแปรรูป) ซึ่งเปิดรับตัวอย่างสิ่งประกวดจัดส่งในลักษณะกาแฟผลแห้ง ปริมาณ 30-80 กิโลกรัม และกาแฟกะลา ปริมาณ 25-60 กิโลกรัม 

สำหรับรางวัลในปีนี้ แบ่งเป็น 3 รางวัล คือ รางวัลที่ 1 มี 5 รางวัล ได้แก่ สิ่งประกวดที่มีคะแนนสูงที่สุดในแต่ละประเภท จะได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล จำนวน 50,000 บาท รางวัลที่ 2 มี 5 รางวัล จะได้รับถ้วยรางวัลจากปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมเงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท รางวัลที่ 3 มี 5 รางวัล จะได้รับถ้วยรางวัลจากอธิบดีกรมวิชาการเกษตร พร้อมเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท รวมถึงสิ่งประกวดทุกประเภทที่ผ่านเข้าสู่การทดสอบคุณภาพด้านประสาทสัมผัสจะได้รับประกาศนียบัตรตามเกณฑ์มาตรฐานการตัดสินของสมาพันธ์กาแฟโลกและประกาศนียบัตรจากกรมวิชาการเกษตร 

  

          การประกวดสุดยอดกาแฟไทย เป็นเวทีที่ให้เกษตรกรชาวสวนกาแฟได้มีโอกาสนำเสนอกาแฟของตนเองเข้าสู่เวทีประกวด ซึ่งเขาจะได้เรียนรู้ในเรื่องคุณภาพที่ตลาดต้องการจากผลคะแนนที่ได้รับ และผลการคัดเลือกเฟ้นหากาแฟที่มีคุณภาพในด้านกลิ่นและรสชาติที่ดีที่สุดจากเกษตรกรไทยที่มีแปลงปลูกกาแฟจริง จะเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรท่านอื่นๆ เกิดการพัฒนาการผลิตกาแฟให้ได้คุณภาพ เป็นการยกระดับมาตรฐานกาแฟไทยสู่มาตรฐานโลก 

  

          “ความพิเศษของการประกวดครั้งนี้ คือ กาแฟของผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรกของแต่ละประเภท จะได้รับสิทธิพิเศษในการนำผลิตภัณฑ์กาแฟไปประชาสัมพันธ์ร่วมจัดแสดงให้ชิมในช่วงเดือนสิงหาคม 2566 ที่งานเทศกาลสินค้าเกษตร ณ MOAC pavilion กรุงมอสโค ประเทศรัสเซีย และในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่งาน Green week ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการประชาสัมพันธ์กาแฟไทยสู่เวทีระดับโลก 

เกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกร/สหกรณ์/วิสาหกิจชุมชนที่สนใจส่งใบสมัครและเมล็ดกาแฟเข้าประกวดได้ ตั้งแต่บัดนี้ถึง 10 มิถุนายน 2566 หรือสอบถามรายละเอียดการสมัครเพิ่มเติมได้ที่สถาบันวิจัยพืชสวน โทรศัพท์ 0-2940-5484 ต่อ 117 ศูนย์วิจัยเกษตรหลวงเชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5311-4133-6 ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ โทรศัพท์ 0-4581-4581 ศูนย์วิจัยเกษตรที่สูงเพชรบูรณ์ โทรศัพท์ 0-5681-0024 ศูนย์วิจัยพืชสวนจันทบุรี โทรศัพท์ 0-3939-7030 และศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร โทรศัพท์ 0-7755-6073, 0-7755-6191”