Creating Visionaries ในแบบ 'สยามพิวรรธน์' ความสำเร็จสู่จุดหมายปลายทางระดับโลก
ถอดรหัส "Creating Visionaries" ในแบบ "สยามพิวรรธน์" เบื้องหลังแนวคิดและการพัฒนาสู่ความสำเร็จโครงการจุดหมายปลายทางระดับโลก
ประเทศไทยตอนนี้มีความคึกคักไม่น้อย เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นเกือบ 20 ล้านคน ในปีนี้แล้ว บรรดานักธุรกิจและผู้นำระดับโลกต่างก็เดินทางมาร่วมงานประชุมและงานสัมมนาระดับสากลอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด CNBC สถานีโทรทัศน์ข่าวธุรกิจชั้นนำระดับโลก เลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงานประชุม CNBC Connect ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในเอเชีย ภายใต้ธีม ASEAN and Beyond โดยมี กลุ่มสยามพิวรรธน์ ร่วมเป็นพันธมิตรด้านสถานที่การจัดประชุม
นอกจากข้อมูลอินไซต์จากเหล่าผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนในภูมิภาคเอเชีย ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการทรานส์ฟอร์มธุรกิจ ความท้าทายในการสร้างธุรกิจที่ยืดหยุ่น เพื่อการแข่งขันและเติบโตในอนาคต รวมทั้งแนวทางการลงทุนเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจของเอเชียเพื่อเป้าหมายสู่ความยั่งยืน โดย "ชฎาทิพ จูตระกูล" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ ร่วมเสวนาในหัวข้อ "Creating Visionaries" แชร์อินไซต์และแนวคิดการพัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลกของ สยามพิวรรธน์ อย่าง สยามพารากอน และ ไอคอนสยาม หมุดปลายทางที่ต้องมาเยือนและได้รับการยอมรับในเวทีโลก แม้ต้องฟันฝ่าวิกฤติหลังเปิดตัวไม่นานในช่วงโควิค-19
ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ กล่าวในงานเสวนา CNBC ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ณ TRUE ICON HALL ไอคอนสยาม ว่า การพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ริมน้ำเจ้าพระยาย่านฝั่งธนบุรีอย่าง ไอคอนสยาม เปรียบเสมือนการสร้าง "แมนฮัตตันของนิวยอร์ก" (Manhattan of New York) มหานครระดับโลก ซึ่งต้องมั่นใจว่าจะต้องเป็นโครงการที่จะสร้างประโยชน์ให้กับทุกภาคส่วน สยามพิวรรธน์ จึงจับมือกับหลากหลายพันธมิตร เพื่อเนรมิตให้ไอคอนสยามเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก ที่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตและสร้างความรุ่งเรืองให้ชุมชนและผู้คนโดยรอบ เหมือนโคมไฟที่จุดประกายให้ทั่วโลกหันกลับมามองประเทศไทยอีกครั้ง
"เราไม่ได้คิดที่จะสร้างโกลบอลเดสติเนชันเพื่อตัวเราเองเท่านั้น แต่เราสร้างแพลตฟอร์มส่งเสริมให้เกิดโอกาสและหาวิธีการที่จะร่วมมือกันในรูปแบบ Collaborate to Win ซึ่งเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของเราที่จะต้อง engage กับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการริมน้ำ โรงแรม เรือ และชุมชน ความสำเร็จของไอคอนสยาม เกิดจากการทำงานร่วมกับพันธมิตรในหลายภาคส่วน เพื่อพัฒนาโครงการนี้ให้เหมือนเป็นเมืองแมนฮัตตันของนิวยอร์ก"
ชฎาทิพ กล่าวต่อไปว่า ในวันนี้ ไอคอนสยาม เป็นแลนด์มาร์กที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในย่านฝั่งธนฯ อีกทั้งยังร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนพัฒนาระบบการเดินทางแบบครบวงจร ครอบคลุมทั้งทางรถ ราง เรือ ดึงดูดนักเดินทางจากทั่วโลก และยังได้รับการยกย่องให้เป็นต้นแบบโครงการค้าปลีกที่บุกเบิกนำเสนอความแปลกใหม่ รวบรวมศิลปะวัฒนธรรมไทย ผสมผสานกับนวัตกรรม และสถาปัตยกรรมระดับโลก สร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งในรูปแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จึงเป็นโครงการที่ดึงดูดทั้งนักลงทุนและนักพัฒนาโครงการค้าปลีกจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมชม
"ด้วยแรงบันดาลใจในการสนับสนุนการท่องเที่ยวที่เริ่มต้นจากการเป็นผู้พัฒนาโรงแรม 5 ดาวแห่งแรกในประเทศไทย จนถึงการพัฒนาศูนย์การค้าที่ได้มาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทยที่กลายจุดหมายปลายทางระดับโลกและเป็นต้นแบบให้กับวงการมาตลอด สถานที่ของเราเป็นสถานที่มี Heart and Soul ที่ทุกคนมาสัมผัสประสบการณ์พิเศษ"
ชฎาทิพ กล่าวต่อไปอีกว่า ด้วยกลยุทธ์ Top of mind เพื่อเป็นที่หนึ่งทั้งในใจทั้งลูกค้า ร้านค้าผู้เช่า และพันธมิตรธุรกิจ เแนวทางการทำธุรกิจของ สยามพิวรรธน์ จึงแตกต่างจากโครงการทั่วไป เพราะไม่ใช่เป็นแลนด์ลอร์ด แต่เป็นพาร์ทเนอร์กับทุกคน และเมื่อเกิดวิกฤติโควิด-19 สยามพิวรรธน์ได้เร่งพัฒนา ONESIAM SuperApp เป็น Digital Platform เพื่อบริการลูกค้า และสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจของร้านค้าและเชิญพันธมิตรจากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมใน Global Ecosystem ดังนั้น ONESIAM SuperApp จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยผลักดันธุรกิจให้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบาก และสามารถเติบโตกลับมาแข็งแกร่งได้
"ในวันนี้ สยามพิวรรธน์ เป็นผู้สร้างประสบการณ์ลักชัวรีที่ยังคงสร้างความแปลกใหม่อยู่เสมอ และ ไอคอนสยาม ถือเป็นหนึ่งในโครงการสุดยอดไอคอนิค รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานเคานต์ดาวน์ระดับโลก ท่ามกลางการแสดงพลุตระการตาริมแม่น้ำเจ้าพระยาของงาน Amazing Thailand Countdown จนกลายเป็นสถานที่ที่ผู้คนทั่วโลกต้องปักหมุดร่วมนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ในทุกๆ ปี ซึ่งแน่นอนว่าการทุ่มงบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท จัดกิจกรรมระดับชาติครั้งยิ่งใหญ่ในทุกศูนย์การค้ารวมกันถึง 40 กิจกรรม จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นให้แตะ 30 ล้านคน ในปลายปีนี้ รวมทั้งปักหมุดให้ประเทศเป็นจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือน"