ยูเครนชี้ให้เห็นว่า โลกไม่แบน | ไสว บุญมา

ยูเครนชี้ให้เห็นว่า โลกไม่แบน | ไสว บุญมา

อาจไม่เป็นที่ทราบกันมากนักว่า ในสหรัฐอเมริกายังมีคนเชื่อว่าโลกแบน ด้วยเหตุนี้ สมาคมโลกแบนที่นั่นจึงมีสมาชิกหลายพันคนทั้งที่ได้มีการพิสูจน์ครั้งแล้วครั้งเล่าว่าโลกไม่แบน

ผู้ติดตามความเป็นไปในสมาคมนี้มีความเห็นว่า สมาชิกจำนวนหนึ่งไม่เชื่อว่าโลกแบน แต่ยังคงความเป็นสมาชิกไว้เพื่อหวังได้ประโยชน์  การยังมีสมาคมนี้อยู่มีผู้มองว่าช่างน่าขบขันและมันบ่งถึงความย้อนแย้งสูงมากเนื่องจากสหรัฐมีความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์มานานแล้ว  

ย้อนไปเมื่อปี 2548 โธมัส ฟรีดแมน นักวิเคราะห์นามกระเดื่องนำนัยของเรื่องความย้อนแย้งดังกล่าวมาใช้เป็นชื่อหนังสือของเขาว่า The World Is Flat: A Brief History of the Twenty-first Century (ดาวน์โหลดบทคัดย่อภาษาไทยได้ฟรีที่เว็บไซต์ของมูลนิธินักอ่านบ้านนา www.bannareader.com)  การตั้งชื่อหนังสือเช่นนั้นอาจมองได้ว่าเพื่อกระตุกความสนใจ  

อย่างไรก็ดี เนื้อหาของหนังสือบ่งชี้ถึงอีกนัยหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องของกระบวนโลกาภิวัตน์ กล่าวคือ เทคโนโลยีใหม่ทำให้โลกมีลักษณะแบนราบและไร้พรมแดน  การติดต่อสื่อสารและการค้าขายจึงทำได้ง่ายเอื้อให้ชาวโลกโดยทั่วไปมีโอกาสได้ประโยชน์อย่างทั่วถึงขึ้น  

ชาวโลกเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทาน หรือพึ่งพาอาศัยกันอย่างทั่วถึงและร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่นคล้ายเป็นเนื้อเดียวกันเอื้อให้เกิดการพัฒนาได้รวดเร็วขึ้น  โอกาสที่จะเกิดสงครามลดลงเนื่องจากผู้คิดก่อสงครามจะได้รับความเสียหายร้ายแรงมากด้วย  

เหตุการณ์ในช่วง 22 ปีของคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเป็นกรอบเวลาของเนื้อหาของหนังสือชี้ชัดว่าบทสรุปมีทั้งถูกและผิด  ประเทศทั่วโลกเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานและพึ่งพาอาศัยกันอย่างทั่วถึงขึ้นจริง  อย่างไรก็ดี มีเพียงบางประเทศเท่านั้นที่อาศัยห่วงโซ่อุปทานพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว เช่น จีน  

ในขณะที่จีนสามารถพัฒนาจนก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจแถวหน้าได้ หลายประเทศประสบปัญหาสาหัสถึงขนาดกลายเป็นรัฐล้มเหลวและยากจนกว่าเก่ามาก เช่น เยเมนและโซมาเลีย  โลกยังมีความขัดแย้งร้ายแรงถึงขั้นทำสงครามกันแบบแทบไม่ขาด  ยูเครนเป็นตัวอย่างล่าสุด

ประเทศส่วนใหญ่ตกอยู่ในระหว่างขั้วบวกสุดเช่นจีนและขั้วลบสุดเช่นรัฐล้มเหลว  การเข้าร่วมห่วงโซ่อุปทานเอื้อให้เศรษฐกิจของประทศต่าง ๆ ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องในอัตราสูงบ้างต่ำบ้างตามแต่สภาพแวดล้อมและความเหมาะสมของนโยบาย  

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปการขยายตัวมิได้กระจายออกไปอย่างกว้างขวางนัก หากส่วนใหญ่มักตกอยู่ในมือของชนชั้นนายทุนกลุ่มเล็ก ๆ ส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำและความแตกแยกในสังคมเพิ่มขึ้น  ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะนี้มีมากซึ่งนักวิชาการทางเศรษฐกิจและสังคมวิเคราะห์กันอย่างกว้างขวาง  

ตัวอย่างที่โดดเด่นคงเป็นนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล โจเซฟ สติกลิตซ์ ซึ่งเขียนหนังสือเกี่ยวกับด้านนี้ไว้ถึง 3 เล่มคือ Globalization and Its Discontents (พิมพ์ 2545) Making Globalization Work (พิมพ์ 2549) and The Price of Inequality (พิมพ์ 2555)  ทุกเล่มมีบทคัดย่อภาษาไทยอยู่ในเว็บไซต์ดังกล่าว

  นักวิชาการย่อมมองผ่านแว่นวิชาการของเขาและนำเอาประเด็นที่เขาคุ้นเคยมาเน้นในการวิเคราะห์  ในบรรดาประเด็นทั้งหลาย ประเด็นที่ดูจะไม่มีใครพิจารณา ได้แก่ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดกระบวนโลกาภิวัตน์นั้น ได้เปลี่ยนธรรมชาติธาตุแท้ของมนุษย์ไปในทางดีอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่ หรือมนุษย์ได้พัฒนากันจริงถึงขั้นพื้นฐานหรือไม่

  ปรากฏการณ์ที่อ้างถึงรวมทั้งในยูเครนน่าจะชี้ชัดว่าการพัฒนาถึงขั้นพื้นฐานมิได้เกิดขึ้น  ห่วงโซ่อุปทานที่เป็นฐานสำคัญของการพัฒนาจึงเปราะบางมากและโลกมิได้แบนราบตามนัยของหนังสือเล่มแรก  เมื่อเกิดปัญหา ณ ที่ใด ทั่วโลกจะได้รับผลกระทบสูงทันที  

เมื่อเป็นเช่นนี้ เรามีทางออกหรือไม่อย่างไร ทั้งในระดับบุคคลและในระดับประเทศ ทางออกมีแน่  แต่เราจะต้องศึกษาและนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง มิใช่ท่องแบบท่องศีลห้า หรือนำมาห้อยโหนดังที่เห็นอยู่โดยทั่วไป  

ผมเสนอให้อ่าน หรือฟังหนังสือเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง ฉบับส่งเสด็จ” ซึ่งดาวน์โหลดได้ฟรีที่เว็บไซต์ดังกล่าวและฟังได้จาก YouTube ให้เข้าใจ  ในบริบทของภาวะปัจจุบัน การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันอาจเป็นองค์ประกอบนำ  แต่เราต้องทำแบบครบถ้วนตลอดไป

สำหรับในระดับประเทศ เราจะต้องเน้นเป็นพิเศษเรื่องการลดการพึ่งนักท่องเที่ยวและเงินทุนต่างชาติในยุทธศาสตร์การพัฒนา.