มุมมองกลยุทธ์การลงทุนรับปีเสือ2022

มุมมองกลยุทธ์การลงทุนรับปีเสือ2022

สวัสดีปี 2022 ผู้อ่านทุกท่านค่ะ ในปีที่ผ่านมา ถือเป็นปีที่ดี สำหรับท่านที่ลงทุนในตลาดหุ้น โดยตลาดหุ้นโลกสามารถให้ผลตอบแทนที่โดดเด่น เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยุโรป อินเดีย และ เวียดนาม เนื่องจาก การดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลายของธนาคารกลางหลักของโลก

การใช้มาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และการทยอยเปิดเมือง ซึ่งช่วยผลักดันให้ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนเติบโตขึ้นมาก อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจีนปรับลดลงจากปีก่อน หลังทางการจีนออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นบนกลุ่มธุรกิจInternetและNon-Internetการออกมาตรการเพื่อสกัดการผูกขาดทางธุรกิจ การสกัดการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ การปกป้องความปลอดภัยของข้อมูล

รวมทั้งจากแนวคิดความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน (Common Prosperity)ขณะที่สินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนลดลง ได้แก่ พันธบัตร และ ทองคำ จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ (Bond Yield) ที่ปรับเพิ่มขึ้น และเงินดอลลาร์ สรอ.ที่แข็งค่าขึ้น

 สำหรับในปี 2022SCB CIOมองประเด็นด้านเศรษฐกิจที่มีผลต่อการลงทุน ดังนี้

1) เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มเติบโตในอัตราที่ชะลอลงในปี 2022 จากผลกระทบของการระบาดของโควิด-19 ที่ยังมีอยู่ต่อไป โดยเฉพาะหากเกิดการกลายพันธุ์ของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ถึงแม้ว่าความรุนแรงจะมีแนวโน้มบรรเทาลงก็ตาม แต่ก็จะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแต่ละประเทศให้ชะลอลง และการเติบโตของเศรษฐกิจจะมีความแตกต่างกันน้อยลง นอกจากนี้ การระบาดยังคงสร้างแรงกดดันให้เงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สูงต่อไป โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 ซึ่งจะนำมาสู่การดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางบางประเทศ เพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ

2) นโยบายการเงินการคลังมีแนวโน้มตึงตัวขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยธนาคารกลางสหรัฐฯ จะสิ้นสุดการปรับลดวงเงินเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการQEในเดือน มี.ค.2022 และมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยประมาณ 3 ครั้งในปี 2022 ด้านธนาคารกลางยุโรป มีแนวโน้มยุติการเข้าซื้อสินทรัพย์ตามมาตรการPEPPในเดือน มี.ค.2022 แต่ยังคงเพิ่มการซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการAPPในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปี 2022 และยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2022 ขณะที่ธนาคารกลางจีน มีแนวโน้มปรับลดอัตรากันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR)ลงเพิ่มเติมในช่วงต้นปี 2022 และอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ระยะ 1 ปีลง เพื่อรักษาสภาพคล่องในระบบให้เพียงพอ และลดต้นทุนการกู้ยืมโดยรวมลง สำหรับนโยบายการคลัง มีแนวโน้มที่วงเงินกระตุ้นจะลดลง และเริ่มเห็นการออกนโยบายเพิ่มรายรับภาครัฐมากขึ้น

3) ต้นทุนทางการเงินมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น สอดคล้องกับBond Yieldที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการลดวงเงินQEของธนาคารกลางหลักที่ต่างๆ โดยเราคาดว่าbond yieldสหรัฐฯ อายุ2ปี จะเพิ่มขึ้นมากกว่า อายุ10ปี และทำให้yield curveสหรัฐฯ ยังมีลักษณะแบนราบลงในปี2022

     ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในปี2022ยังคงเน้นการลงทุนในหุ้นมากกว่าตราสารหนี้โดยเน้นไปที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรป รวมทั้ง หุ้นในกลุ่มquality growthเนื่องจาก เป็นกลุ่มที่มีภูมิคุ้มกันสูง และสามารถเติบโตได้ดี ในสภาวะที่ผลกระทบของCOVID-19ยังไม่หายไป และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปนอกจากนี้ แนะนำ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น และตลาดหุ้นเวียดนาม เนื่องจากvaluationยังไม่แพง และยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นทางการคลังต่อเนื่อง ด้านตลาดหุ้นไทย มีมุมมองneutralจากvaluationที่ตึงตัว และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่น่าจะเกิดขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี2022 สอดคล้องกับการกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

       สำหรับ ตลาดหุ้นจีน ยังคงมุมมองเป็นneutralแต่สามารถทยอยเข้าลงทุนสะสมระยะยาว บนหุ้นจีนกลุ่มเทคโนโลยี ตามvaluationที่ปรับลดลงมามาก และได้ซึมซับความกังวลเรื่องการออกกฎระเบียบของทางการจีนไปค่อนข้างมากแล้ว อย่างไรก็ตาม แนะนำทยอยลดน้ำหนักการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล และทองคำ ในพอร์ทการลงทุน ตามBond Yieldที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น และเงินดอลลาร์ ที่มีแนวโน้มแข็งค่า สำหรับการลงทุนThematic Themes เน้นธุรกิจที่มีพื้นฐานแข็งแกร่ง และสามารถเกาะกระแสการเติบโตของเมกะเทรนด์ในอนาคตใน 2ธีมการลงทุนหลักได้แก่1)ธีมการลงทุนอุตสาหกรรมระยะยาวที่เติบโตต่อเนื่อง มี3ธีมย่อย คือRenewable Energy & Decarbonization, Healthcare & Healthtech และFintechและ 2)ธีมการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่มีศักยภาพเติบโตสูง มี2ธีมย่อย คือAerospace & Space ExplorationและMetaverse

       นอกจากนี้เหตุการณ์สำคัญที่ต้องติดตาม และจะมีผลต่อตลาดการเงินในปี2022ได้แก่ การอนุมัติงบประมาณประจำปี2022ของสหรัฐฯ (ก่อนเส้นตาย18ก.พ.)การผ่านนโยบายBuild Back Betterของสหรัฐฯ และ การทบทวนข้อตกลงการค้าเฟสแรกระหว่างสหรัฐฯ-จีน ที่ครบกำหนด2ปี (ช่วง1Q2022)การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีนประจำปี เพื่อตั้งเป้าหมายสำคัญทางเศรษฐกิจ (เริ่ม5มี.ค.)การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส (10และ24เม.ย.)การเลือกตั้งสภาสูงของญี่ปุ่น(เดือน ก.ค.)การประชุมสมัชชาใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 20 เพื่อเลือกผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์สำหรับปี2023-2028(ช่วง4Q2022)และการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ (8พ.ย.)