เหรียญสควิดเกม ตายจริงนอกซีรีส์ | จับกระแส

เจ้าของโปรเจคตั้งชื่อและพัฒนา “สควิด เกม โทเคน” จากซีรีส์ชื่อดังสนั่นโลก Squid Game ในเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเน็ตฟลิกซ์ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเจ้าของโปรเจคหลอกลวงนี้

เว็บไซต์สำนักข่าวซีเอ็นบีซีระบุว่า “เจ้าของโปรเจค” ซึ่งไม่เปิดเผยตัว เริ่มพรีเซลส์เหรียญสควิดเมื่อวันที่ 20 ต.ค.2564 และ sold out ขายหมดในเวลาเพียง 1 วินาที เจ้าของโปรเจคระบุไว้ในสมุดปกขาว (white paper เอกสารนำเสนอข้อมูลการลงทุน) ว่าเหรียญสควิดเป็นเหรียญแบบ play-to-earn (เล่นเพื่อให้ได้เงิน) คือต้องซื้อเหรียญเพื่อเล่นเกมออนไลน์

ยิ่งมีคนเข้าร่วมมาก เงินรางวัลกองกลางยิ่งมากขึ้น เหรียญเหล่านี้สามารถนำไปแลกเป็นคริปโทเคอร์เรนซีสกุลอื่น แล้วเปลี่ยนเป็นเงินได้ตามต้องการ โดยเจ้าของโปรเจคได้เงิน 10% ของค่าธรรมเนียมเข้าใช้งาน ส่วนที่เหลืออีก 90% ตกเป็นของผู้ชนะในเกม

เว็บไซต์สำนักข่าวบีบีซีระบุว่า วันที่ 26 ต.ค. เหรียญสควิดซื้อขายกันที่ราคา 1 เซนต์ (ประมาณ 0.33 บาท) แล้วขยับขึ้นเป็น 2.34 ดอลลาร์ (ประมาณ 77.22 บาท) และพุ่งขึ้นมากกว่า 20 เท่าตัวเมื่อวันที่ 29 ต.ค. และแล้วเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พ.ย. เจ้าของโปรเจคก็ลงมือปฏิบัติการในสิ่งที่วงการคริปโทเคอร์เรนซีเรียกว่า rug pull รูปแบบการโจรกรรมที่เจ้าของโปรเจคหลอกนักลงทุนให้เอาเงินมาลงทุนไว้ในแพลตฟอร์ม จากนั้นปิดแพลตฟอร์ม โอนเงินออกไปจนหมด แถมตรวจสอบและติดตามไม่ได้ว่าสุดท้ายเงินหายไปไหน
    นั่นทำให้ราคาเหรียญสควิดหลังพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 2,861 ดอลลาร์ ใช้เวลาเพียง 5 นาที ราคาเหรียญก็ดิ่งเหวลดลงเหลือ 0.002541 ดอลลาร์ ระหว่างนั้นนักลงทุนถูกปิดกั้นการขายด้วยกลไกที่เจ้าของโปรเจคเขียนโปรแกรมไว้

"เบอนาร์ด" เป็นนักลงทุนคนหนึ่งในเซี่ยงไฮ้ที่ติดกับ หลังได้ยินชื่อโทเคนที่ตั้งชื่อตามซีรีส์เกาหลีสุดฮิตกระฉ่อนโลก เขาตัดสินใจทุ่มเงินเก็บตลอดชีวิตจำนวน 28,000 ดอลลาร์ ซื้อเหรียญโปรเจคนี้ โดยไม่ทันอ่านบทวิเคราะห์จาก CoinMarketCap ที่ขึ้น "ธงแดง" เตือน โปรเจคสควิดโทเคนมีความเสี่ยงสูง ทั้้งราคาที่เหวี่ยงขึ้นแรง และความไม่ชัดเจนในเงื่อนไขการเปลี่ยนเหรียญสควิดเป็นเงิน
    “การที่ผมด่วนตัดสินใจซื้อเหรียญสควิด มีเหตุผลเดียวเท่าที่สมองผมคิดได้ตอนนั้นคือชื่อ ‘สควิด เกม’ ดังสุดๆ ได้รับความนิยมมาก สควิดโทเคนก็ต้องได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน แต่มันคือโศกนาฏกรรม ผมไม่รู้จะหาเงินมาทดแทนส่วนที่หมดตัวไปนี้ได้อย่างไร” เบอนาร์ดให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นบีซี โดยไม่ขอเปิดเผยนามสกุล เพราะการเทรดคริปโทเคอร์เรนซียังเป็นเรื่องผิดกฎหมายในประเทศจีน
    ไม่เฉพาะ "เบอนาร์ด" ยังมีนักลงทุนในหลายประเทศสูญเงินไปกับเหรียญสควิด ส่วนใหญ่ทวีตข้อความไปในทางเดียวกัน คือตัดสินใจผิดเพราะหลงเชื่อกระแสความนิยมซีรีส์ 
    BscScan ระบุว่า จากการถูกปิดกั้นการขาย ขณะนี้ยังมีผู้ถือเหรียญสควิดมากกว่า 40,000 คน การโจรกรรมครั้งนี้เจ้าของโปรเจคเชิดเงินนักลงทุนคริปโทเคอร์เรนซีไปได้ราว 3.4 ล้านดอลลาร์ หรือราว 112.2 ล้านบาท
    ฆ่านักลงทุนอย่างเลือดเย็นสมชื่อ rug pull รูปแบบโจรกรรมที่เปรียบกับการดึงพรมให้คนบนพรมล้มทั้งยืนโดยไม่ทันรู้ตัว เป็นบทเรียนราคาแพงสุดโหดที่มาใหม่พร้อมโลกดิจิทัลอันแสนศิวิไลซ์ และไม่ยุติธรรมสำหรับเจ้าของโปรเจคที่ทำถูกต้องตรงไปตรงมา