ระวังม็อบชนม็อบ!

ที่ต้องบอกว่า ทั้งสองฝั่งเอาสถาบันสูงสุดอันเป็นที่เคารพของประชาชน มาเป็นเงื่อนไขในการเคลื่อนไหวของฝ่ายตนที่ “มิบังควร”

ฝ่ายนักศึกษาและประชาชนที่เรียกตัวเองว่า ”ประชาชนปลดแอก” เคลื่อนไหวเกินเลยต่อเรื่องการเมือง ที่จะไล่รัฐบาลหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ เลยเถิดไปถึงการ ”ก้าวข้ามเส้น” ไปก้าวล่วงถึงสถาบันที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกยุคทุกสมัย

ทำให้การเคลื่อนไหวของขบวนการ ”ปลดแอก” ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชนโดยรวมของสังคม และถูกเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด ตามกฎหมาย

ขณะที่ฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล ก็อาศัยเงื่อนไข ”การก้าวล่วงสถาบัน” ออกมาเคลื่อนไหว จัดตั้งกลุ่มต่างๆ ออกมา ที่ทำให้สถานการณ์ การเผชิญหน้าของ “คนไทยด้วยกัน” ร้อนแรงขึ้น

บรรยากาศการปลุกม็อบชนม็อบ จึงถูกนักการเมือง จากทุกค่าย นักวิชาการ และผู้ติดตามการเมือง ต่างวิเคราะห์ตรงกันว่า กำลังย้อนรอย สถานการณ์ “6 ตุลา2519” ที่ท้ายสุดจบด้วยการ “นองเลือด” และ ”คนไทยฆ่ากัน” สุดท้าย ประเทศไทย และคนไทยคือผู้พ่ายแพ้

ไม่มีประโยชน์ที่จะทำ “ม็อบชนม็อบ” หรือ การต่อสู้กันเอง ยังมีปัญหาสำหรับประเทศชาติอีกมากมายที่ต้องอาศัยพลังร่วมกัน ในการฝ่าฟันให้เจอ “แสงสว่าง” สำหรับประเทศไทย ทั้งเรื่อง โควิด-19 และปัญหาเศรษฐกิจ ที่เป็นเรื่องปากท้องของทุกคน

กลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “ประชาชนปลดแอก” ควรจะเลิกก้าวล่วงสถาบันที่คนไทยเคารพรัก ควรจะจำกัดวง ว่ากันที่การเมืองที่อยู่เพียงรัฐบาลและรัฐสภา ไม่สร้างเงื่อนไขให้คน ”คิดต่าง” ออกมาเคลื่อนไหวต้าน

กลุ่มที่อ้างว่ารักสถาบัน ก็ไม่ควรสร้างม็อบก่อให้เกิดบรรยากาศอันไม่พึงประสงค์ ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายและรัฐศาสตร์ในการปกครองประเทศ เพราะคนความเห็นต่างกันทุกคน คือ “คนไทย”

พวก “กระหายเห็นการนองเลือด” ยุยงทั้งสองฝั่ง ควรจะหยุดอยู่เบื้องหลัง เชิดเยาวชน ให้เผชิญหน้าและนำไปสู่การฆ่ากัน เพราะไอ้คนที่อยู่เบื้องหลังเหล่านี้ กำลังหากินกับเลือดและชีวิตของคนไทย

เลิกปั่นหัวให้คนไทย ”ฆ่ากัน” เถิดเพราะไม่เกิดประโยชน์ เลิกคิดถึงอำนาจบนความเจ็บปวดของประชาชน เพราะถึงแม้จะชนะ ยึดกุมอำนาจปกครองประเทศได้ แต่จะเป็นการมีอำนาจบน “ซากปรักหักพัง” ของประเทศ

นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องใช้หลักรัฐศาสตร์ มิให้คนไทยเผชิญหน้าห้ำหั่นกันเอง เพราะสถานการณ์แบบนี้ไม่ใช่ “รวมไทย สร้างชาติ”อย่างที่ประกาศไว้

 

#ไม่อยากเห็น 6 ตุลา รอบสอง