บีบนายกฯ กระเทือนสัมพันธ์ '3 ป.'

บีบนายกฯ กระเทือนสัมพันธ์ '3 ป.'

การมีมติของพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันอังคารที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้เสนอชื่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคเป็น รมว.มหาดไทย

 ให้นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรค เป็น รมว. พลังงาน ให้นายอนุชา นาคาศัย เลขาธิการพรรค เป็น รมว.อุตสาหกรรม ให้นายสุชาติ ชมกลิ่น รองหัวหน้าพรรค เป็น รมว.แรงงาน และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นต่อนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการปรับคณะรัฐมนตรีที่กำลังจะมีขึ้นในเร็ววันนี้

ความเหมาะสมที่สังคมยอมรับได้หรือไม่ต่อรายชื่อดังกล่าว และนายกรัฐมนตรี ผู้มีอำนาจตัดสินใจสูงสุด จะบันดาลให้เป็นไปตามข้อเสนอในมติพรรคพลังประชารัฐ หรือไม่ เป็นอีกเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป

 แต่มติของพรรคพลังประชารัฐ ได้ทำให้ความสัมพันธ์ของพี่น้อง 3 ป.ที่ร่วมชีวิต ทั้งในการรับราชการทหาร-การยึดอำนาจมาอย่างยาวนาน กระทบกระเทือนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เพราะเก้าอี้ รมว.มหาดไทย (มท.1) เป็นเสมือน “ของรักของหวง” ของ ป.ป๊อก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ที่ครองเก้าอี้นี้ยาวนานมากว่า 6 ปี นับตั้งแต่การรัฐประหาร 22 พ.ค.2557

และต้องเข้าใจว่า ความสัมพันธ์ที่ “ลึกซึ้ง” ชนิด “ตายแทนกันได้” ระหว่าง ป.ป๊อก กับ ป.ประยุทธ์ ที่คนในแวดวงทหารรู้ดี ไม่มีวันที่ ป.ประยุทธ์ จะเลือกเปลี่ยน ป.ป๊อก ออกจากเก้าอี้ มท.1 ตามความประสงค์ของส.ส.พลังประชารัฐ ที่ล่าชื่อมีมติกัน โดยนักการเมืองเหล่านี้ หาได้เข้าใจ “ปูม” ประวัติ แห่งความสัมพันธ์ที่สร้างสมกันมาไม่

นักการเมืองในพลังประชารัฐ เห็นเพียงประโยชน์แห่งตน ว่าการเปลี่ยนเป็น ป.ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เพราะจะได้เข้าถึงง่าย -ของ่าย ทั้งเรื่องโครงการและการโยกย้ายข้าราชการ รวมถึงหวังการมีส่วนได้ในการเลือกตั้งท้องถิ่นอันเป็นฐานคะแนนสำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.ในอนาคต

หาก ป.ป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่ปฏิเสธ ไม่เด็ดขาด พูดแบบ ทีเล่นทีจริงในการจะรับหรือไม่รับตำแหน่ง มท.1 น่าจะเป็นจุดหักเห แห่งความสัมพันธ์ของ 3 ป. “คณะที่ร่วมกันมีบทบาททางการเมืองนับตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา และนั่นจะเป็นจุดสั่นคลอนอำนาจทางการเมืองของคณะ 3 ป. ในที่สุด

มติพรรคพลังประชารัฐอีกเรื่อง ที่ทำให้เกิดจุดหักเหความสัมพันธ์ ระหว่าง ลุงตู่กับลุงกำนันได้ คือ การขอยึดกระทรวงแรงงานคืนจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพื่อประเคนเก้าอี้นี้ให้ สุชาติ ชมกลิ่น ด้วยตรรกะ ที่ง่ายๆ ของนักการเมืองพรรคนี้ ที่เห็นว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย มีเพียง 5 เสียง ไม่สมควรได้รับเก้าอี้ รมว.แรงงาน และน่าจะยอมแลกกับเก้าอี้ รัฐมนตรีอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์และนวัตกรรม(อว.)

 แต่ลืมคิดไปว่า 5 เสียง ของลุงกำนัน-สุเทพ เทือกสุบรรณ เป็น 5 เสียง ที่มีพลังและอาจจะเสียงดังกว่า หลายๆ กลุ่มในพรรคพลังประชารัฐ และที่สำคัญ ลุงกำนันกับลุงตู่ มีความสัมพันธ์และสำคัญต่อกัน จนไม่อาจทิ้งกันได้

 จึงมีเสียงเล็ดลอดจากตึกไทยคู่ฟ้า ทันทีที่มีความพยายามยึดเก้าอี้ รมว.แรงงาน เสียงคำรามของคนในตึกไทยคู่ฟ้า ไม่พอคนในพรรคพลังประชารัฐที่อยู่เบื้องหลังการก่อการครั้งนี้ โดยเฉพาะ “เสี่ย ว.” (เจ้าเก่า)

โผ ครม.ของพลังประชารัฐ ที่จะบีบนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ จึงฟันธงได้ว่า ไม่สามารถเป็นไปตามมติพรรคได้ทั้งหมด และใครเป็นตัวการบั่นทอนความสัมพันธ์ 3 ป. รวมทั้งความสัมพันธ์ ระหว่าง ลุงตู่-ลุงกำนันระวัง ไม่มีที่ยืน