ราคาน้ำมันดิบนิ่ง หลังร่วงลงแรงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ ห่วงล้นตลาด

บลูมเบิร์ก รายงานราคาน้ำมันดิบทรงตัวเช้านี้ (9 ธ.ค.68) หลังจากปรับตัวลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 3 สัปดาห์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานต่างๆ ในสัปดาห์นี้เพื่อประเมินระดับของภาวะน้ำมันล้นตลาด

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ทรงตัวใกล้ระดับ 59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 2% ในวันจันทร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดเหนือระดับ 62 ดอลลาร์ 

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เตรียมเผยแพร่รายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้นในวันอังคารนี้ โดยจะมีรายงานจากสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันโอเปก (OPEC) ในสัปดาห์นี้

IEA คาดการณ์ว่าจะมีภาวะน้ำมันเกินความต้องการของตลาดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า และนักลงทุนจะจับตามองการเปลี่ยนแปลงใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับแนวโน้มตลาด ราคาน้ำมันดิบซื้อขายอยู่ในช่วงแคบๆ ที่ 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน โดยนักลงทุนยังพิจารณาถึงผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียและการลดการส่งออกที่อาจเกิดขึ้น

อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบทางทะเลรายใหญ่ที่สุดจากมอสโก เตรียมลดปริมาณการนำเข้า และการซื้อน้ำมันดิบของอินเดียน่าจะเป็นประเด็นสำคัญในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เดินทางเยือนประเทศในเอเชียใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ในส่วนอื่นๆ การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของรัสเซียอย่างต่อเนื่องโดยยูเครนกำลังคุกคามที่จะส่งผลกระทบต่อผลผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบไปยังตลาดอื่นๆ เกิดการหยุดชะงักที่สถานีส่งออกน้ำมันหลักของ CPC ในทะเลดำ โดยความสามารถในการส่งออกที่ลดลงยังส่งผลกระทบต่อการขนส่งจากคาซัคสถาน

อัปเดตราคาเช้านี้

WTI ส่งมอบเดือนมกราคมทรงตัวที่ 58.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ณ เวลา 8:25 น. ตามเวลาที่สิงคโปร์

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ปิดลดลง 2% ที่ 62.49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในวันจันทร์